ถ้วยพระราชทาน ก/ บับเบิ้ล | คมชัดลึก

 ยุคสมัยวันวานฟุตบอล “ถ้วย ก” คือถ้วยใบศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของการดวลแข้งในระดับสโมสร ทุกทีมต่างหมายปองที่จะครองถ้วยพระราชทานใบนี้
 สมัยก่อนฟุตบอล “ถ้วย ก” แข่งขันกันในระบบทัวร์นาเมนต์ ดวลแข้งแบบแบ่งสายแล้วไปชิงชนะเลิศกันในบั้นปลาย ทีมใดได้แชมป์ถ้วย ก ต้องถือว่าเป็นสุดยอดทีมของเมืองไทย
 ส่วนนักฟุตบอลที่ได้ชื่อว่าเล่นในระดับ “ถ้วย ก” ก็ต้องถือว่าไม่ธรรมดา เพราะจะมีเพียงแค่ยอดนักเตะที่ฝีเท้า “ถึงขั้น” เท่านั้นถึงจะได้เล่นในระดับนี้ หากฝีเท้าไม่เจ๋งจริงจะอยูในแค่ถ้วย ข, ค หรือ ง เท่านั้น
 วันเวลาหมุนเวียนมาจนถึงปัจจุบัน วงการฟุตบอลไทยพัฒนาจากรูปแบบทัวร์นาเมนต์กลายมาเป็น “ลีก” ทำให้ “ถ้วย ก” ต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย
 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ตัดสินใจนำทัวร์นาเมนต์ถ้วยพระราชทานอย่าง “ถ้วย ก” มาเป็นฟุตบอลที่เตะกันแค่นัดเดียวเป็นเกมชิมลางก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ของ “ไทยพรีเมียร์ลีก”
 กติการะบุว่าทีมที่ได้ “แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก” และ “แชมป์เอฟเอ คัพ” จากฤดูกาลล่าสุด คือทีมที่ได้สิทธิ์เป็นคู่ชิงชนะเลิศในฟุตบอลลีกฤดูกาลใหม่
 เหมือนฟุตบอลคอมมูนิตี้ชิลด์ของอังกฤษยังไงยังงั้นเลย...
 สำหรับปีนี้คู่ชิง“ถ้วย ก”คือ “กิเลนผยอง” เมืองทองฯ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกกับ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือไทย เอฟซี แชมป์เอฟเอ คัพ
 ทั้งสองทีมมีคิวลงดวลแข้งในวันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ เวลา 17.00 น. ที่สนามศุภชลาศัย สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ทำหน้าที่ถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ
 ว่ากันว่าเกมในปีนี้จะเป็นการเรียกความยิ่งใหญ่ของ “ถ้วย ก” กลับคืนมาอีกครั้ง เพราะคาดคะเนกันว่าจะมีแฟนบอลของทั้งสองทีมเข้าไปจนเต็มความจุของสนามเกือบๆ 3 หมื่นคนเลยทีเดียว
 ถือว่าไม่ได้เกินความเป็นจริงครับ เพราะนี่คือเกมที่น่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว ทั้ง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด และการท่าเรือไทย เอฟซี ถือว่าน่าดูทั้งคู่
 ทั้งสองทีมระดับนักเตะทีมชาติมากันเต็มที่ เมืองทองฯ น่าจะส่งตัวใหม่อย่าง ดัสกร ทองเหลา และ ภานุพงษ์ วงศา ลงลุย ส่วนสิงห์เจ้าท่าก็มีคู่หัวหอกตัวใหม่ ศรายุทธ ชัยคำดี และ สมปอง สอเหลบ เป็นทีเด็ด
 ที่น่าสนใจอีกอย่างคือกองเชียร์ที่ต่างสไตล์กัน เหล่า “อุลตร้า เมืองทอง” ถือว่าเชียร์กันอย่างเป็นระบบระเบียบ แต่กองเชียร์ “สิงห์เจ้าท่า” ที่จะแห่รถเป็นขบวนมาจากถิ่นคลองเตย จะออกสไตล์ฮาร์ดคอร์เล็กๆ โดนใจ
 บอกได้เลยว่าเกมนี้จะมีสีสันทั้งนอกสนามและในสนาม ถ้าใครไม่ติดภารกิจอะไรขอเชิญชวนให้ไปเรียกอดีตความยิ่งใหญ่ของฟุตบอล “ถ้วย ก” กลับขึ้นมากันอีกครั้ง
 รับประกันว่าน่าจะสนุกสะใจ คุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอน