ข่าว

นายกฯ ตั้ง Fb "ผู้พิทักษ์อนามัย" พร้อมเฝ้าระวังทุก 2 สัปดาห์ หลัง "เปิดประเทศ"

นายกฯ ตั้ง Fb "ผู้พิทักษ์อนามัย" พร้อมเฝ้าระวังทุก 2 สัปดาห์ หลัง "เปิดประเทศ"

30 ต.ค. 2564

นับถอยหลัง "เปิดประเทศ" 1 พ.ย.นี้ นายกรัฐมนตรีสั่งจัดมาตรการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 3 ส่วนหลัก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมอบหมายทุกภาคส่วนราชการจัดเตรียมมาตรการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์หลังการ "เปิดประเทศ" อย่างปลอดภัย 1 พ.ย.นี้ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย  จัดทำข้อกำหนดการดำเนินงานเพื่อเป็นเครื่องมือในการกำกับดูแลกิจการประเมิน ติดตามและเฝ้าระวัง สถานประกอบการต่าง ๆ ประกอบด้วย  3 ส่วนหลัก คือ 

 

ส่วนที่ 1 Self Certification : ให้สถานประกอบการทุก Setting ลงทะเบียน ประเมินตนเองบนระบบ Thai Stop COVID Plus เพื่อยกระดับตามมาตรการ COVID Free Setting และให้ทุกสถานประกอบการติด E-Certificated ในจุดที่ผู้ใช้บริการเห็นเด่นชัด

 

ส่วนที่ 2 People Voice : ประชาชนสามารถประเมิน แนะนำ ติชม ร้องเรียน สถานประกอบการในพื้นที่ COVID Free Area/Zone ผ่านช่องทาง QR Code ใน E-Certificate ,Website Thai Stop COVID Plus และ เฟซบุ๊ก “ผู้พิทักษ์อนามัย (COVID Watch)” และ

 

ส่วนที่ 3 Active Inspection : จัดตั้งคณะกรรมการ ร่วมตรวจ กำกับ COVID Free Area/Zone ภาครัฐและภาคประชาชน ตรวจประเมินทุก 2 สัปดาห์ กำกับมาตรการตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จัดทำ Checklist และเป้าหมาย โดยตรวจสอบข้อมูลบน Thai Stop COVID Plus ให้คำแนะนำ ตักเตือน กิจการที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด (พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ร.บ.สถานบริการ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน)

 

ทั้งนี้เมื่อมีการ "เปิดประเทศ" แล้ว คณะกรรมการบูรณาจากทุกภาคส่วนก็จะดำเนินการตรวจสอบและประเมินทุก 2 สัปดาห์ รวมทั้งแต่ละหน่วยจะมืการจัดทำแผนเผชิญเหตุและความพร้อมทรัพยากร เช่น โรงพยาบาลสนาม พื้นที่สำหรับการกักตัว แยกกัก เวชภัณฑ์ ยา  ด้วย

 

 

 

สำหรับยอดการฉีดวัคซีน สถิติการฉีดวัคซีน ภาพรวมทั่วประเทศ ณ 28 ต.ค. นี้ แบ่งเป็นการฉีดเข็มแรกแล้ว 57.63%   เข็มสอง 41.47 % กทม. และปริมณฑล เข็มแรกสูงสุด88.28%  และเข็มสอง 64.85% 

 

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีมั่นใจระบบสาธารณสุขของไทยต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัยในการเตรียมมาตรการรองรับในการป้องกันตนเองหลัง "เปิดประเทศ" ประชาชนและนักท่องเที่ยวทุกคนต้องปฏิบัติเข้มตามมาตรการ Universal Prevention  เปิดบ้าน เปิดเมือง "เปิดประเทศ" ซึ่งจะผลดีต่อระบบเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งการ"เปิดประเทศ"แล้วไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีผู้ติดเชื้อ แต่จะอยู่ในระดับที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้

 

ซึ่งรัฐบาลพร้อมชี้แจงด้วยข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนมีความสบายใจ และขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลมีมาตรการรองรับและระบบสาธารณสุขไทยมีความเข้มแข็งซึ่งขณะนี้หลายประเทศจับตาดูไทยและจะจัดทำพื้นที่ท่องเที่ยวแซนด์บ็อกซ์ตามรูปแบบของประเทศไทยด้วย