ข่าว

เตือนภัย "โจรแสบ" รอช่องโหว่ จี้ชิงทรัพย์สาวปั่นผ้า ตร.เร่งดูวงจรปิดล่าตัว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คนร้ายย่ามใจ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ ขณะหนุ่ม-สาว รอปั่นผ้า ด้านตำรวจเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ขณะที่ผู้เสียหายเตือนสังคมให้ระวังตัวทุกเมื่อ

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี Jaja Raphichada ได้แชร์เรื่องราวพร้อมคลิปภาพจากกล้องวงจรปิด กรณีพี่สาว ซึ่งเป็นผู้เสียหายถูกคนร้าย เข้ามาจี้ชิงทรัพย์ขณะนั่งกินข้าวระหว่างรอปั่นผ้า ที่ร้านซักผ้าหยอดเหรียญแห่งหนึ่งใกล้หอพักย่านรังสิต ถ.รังสิต - นครนายก ซอย 16  จ.ปทุมธานี โดยคนร้ายสวมเสื้อคลุมแขนยาวลายพราง อายุระหว่าง 35-40 ปี เดินเข้ามาขู่เอาโทรศัพท์และกระเป๋าเงิน

ผู้เสียหาย เล่าเหตุการณ์ให้คมชัดลึก ฟังว่า หลังเลิกงาน ได้นำเสื้อผ้ามาซัก ที่ร้านซักผ้าหยอดเหรียญดังกล่าว ขณะนั่งกินข้าวกับแฟน ช่วงเวลา 23.00 น.วันที่ 28 ต.ค.64 ได้มีคนร้ายรูปร่างท้วม ผิวดำแดง ใส่เสื้อคลุมลายพราง สวมกางเกงยีนส์ ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดที่หน้าร้าน จากนั้นเดินขึ้นบันตรงมาขู่เอาโทรศัพท์และกระเป๋าเงิน แต่เนื่องจากแฟนไม่ยอมให้ คนร้ายจึงได้ชักปืนที่เหน็บไว้เอวขึ้นมาจี้ที่หัวแฟน 2 ครั้ง ก่อนใช้ปืนผลักหัว จึงได้ยอมให้ทรัพย์สินไป ประกอบด้วย โทรศัพท์สมาร์ทโฟน 2 เครื่อง เงินสดจำนวนหนึ่ง กุญแจรถ และทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 30,000 บาท ทั้งนี้ขณะคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ออกไป ได้วิ่งตามคนร้าย แต่ไม่ทัน จากนั้นพลเมืองดีมาเห็นเหตุการณ์เลยพาเข้าแจ้งความที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี

 

"เงินที่คนร้ายได้ไป ไม่เยอะมากประมาณ 200 บาท เพราะนำติดตัวแค่นี้ แต่เสียดายโทรศัพท์มากกว่า จึงอยากเตือนไปถึงทุกคนให้ระวังตัว ไม่ควรนำทรัพย์สินติดตัวเยอะ ที่สำคัญหากชอบทำอะไรดึกๆ ก็ควรมีเพื่อนไปเยอะๆ เพราะเหตุอยู่ใกล้ตัวเราทุกเมื่อ เราไม่มีทางรู้เลยว่าใครจ้องมองเราอยู่"

ด้าน พ.ต.อ.อภิชาต ทองแพ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ยืนยันกับคมชัดลึก ว่า ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้รับแจ้งเหตุตั้งแต่เมื่อคืน (28 ต.ค.64) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

 

“ได้สั่งการให้จัดกำลังออกตรวจทุกพื้นที่ สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันตลอด ตำรวจไม่ได้ละเลย ส่วนช่วงเวลาที่เกิดเหตุ เป็นช่วงใกล้เคอร์ฟิว ประชาชนก็จะเข้าบ้าน และเป็นช่วงรอยต่อที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตั้งแถวเพื่อกระจายกำลังออกตรวจเหตุ จึงถือเป็นจุดบอดให้คนร้ายก่อเหตุ”

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ