ข่าว

ปิดคดีสะเทือนขวัญ14ปีก่อน "ปล้นฆ่า" ค้อนทุบหัว โจรคนสุดท้ายโดนรวบใช้กรรม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจภูธรภาค 1 ตามจับผู้ต้องหาคนสุดท้ายปิดคดีสะเทือนขวัญ เมื่อ 14 ปีก่อน ลวง "ปล้นฆ่า" พี่ชาย และแม่ อดีตอธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครองจังหวัดอุดรธานี หลังหนีไปใช้ชีวิตในสวนยาง นครศรีธรรมราช

28 ต.ค.2564  นายเชาว์  หรือ เชา   (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี นำกำลังเข้าจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ในข้อหา "ปล้นทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย  โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม  , ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ร่วมกันซ่อนเร่น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย " โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านไม่มีเลขที่ ม.5 ต.เสือหึง อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช

ปิดคดีสะเทือนขวัญ14ปีก่อน "ปล้นฆ่า" ค้อนทุบหัว โจรคนสุดท้ายโดนรวบใช้กรรม

 

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1)  กล่าวว่า เมื่อปี 2550 ในท้องที่ สภ.ปากเกร็ด เกิดคดีสะเทือนขวัญ หลังมีคนร้าย 6 คนวางแผนปล้นพระเครื่องมูลค่าสูง ของ นายธีระศักดิ์ ธีระชิต พี่ชาย และนางรัชนี ธีระชิต มารดา ของอธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครองจังหวัดอุดรธานีในขณะนั้น  โดยคนร้ายทำทีเป็นขอเช่าพระเครื่องในราคา 8 ล้านบาท ก่อนที่หนึ่งในผู้ก่อเหตุจะใช้ฆ้อนทุบศีรษะนายธีระศักดิ์จนเสียชีวิต และเตรียมนำศพขึ้นรถตู้ไปเพื่ออำพรางศพ แต่นางรัชนี มารดาเข้ามาเห็นเหตุการณ์จึงถูกกลุ่มคนร้ายฆ่าอีก 1 ราย จากนั้นคนร้ายนำร่างทั้งสองคนขึ้นรถตู้ไปเผาที่ จ.ชัยภูมิ 

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ติดตามจับกุมคนร้ายได้ 4 คน คือ นายธานี ซ่อนกลิ่น, นายสันติ จำนงผล, นายบุญส่ง สิงห์ครอง ,นายประวิตร เกตุสกุล ส่วน น.ส.นุสรา ก้อนเจริญ หนึ่งในผู้ต้องหาได้เสียชีวิตแล้วเมื่อปี 2562 เหลือเพียงนายเชา ผู้ต้องหาคนสุดท้ายที่ยังหลบหนี กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบและติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด 
 

ปิดคดีสะเทือนขวัญ14ปีก่อน "ปล้นฆ่า" ค้อนทุบหัว โจรคนสุดท้ายโดนรวบใช้กรรม

 

ด้าน พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย  รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี (รอง ผบก.จ.นนทบุรี)  ระบุว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีสะเทือนขวัญและอยู่ในความสนใจของประชาชน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ติดตามคนร้ายมาอย่างต่อเนื่องโดยหลังก่อเหตุ แต่เนื่องจากคนร้ายระวังตัวเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีการเปลี่ยนชื่อ ใช้แต่บัตรประชาชนของน้องชายในการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ และมีภรรยาใหม่ ก่อนจะหนีไปใช้ชีวิตอยู่ในสวนยาง กระทั่งถูกจับกุมได้ในที่สุด รวมระยะเวลาหลบหนีกว่า 14 ปี

 

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าสองแม่ลูกจริง โดยใช้ค้อนตอกตะปูทุบศีรษะ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาและนำตัวส่ง สภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

logoline