ข่าว

ศาลคดีทุจริตนัดไต่สวนคดีข้อพิพาทโครงการ"รถไฟฟ้าสีส้ม"ธันวาคมนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จับตา ศาลอาญาคดีทุจริตฯ นัดไต่สวน โครงการ"รถไฟฟ้าสายสีส้ม" ตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เป็นเวลา 3 วัน ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ 

ปมข้อพิพาทโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระหว่าง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กับ ทางบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส  มีความคืบหน้าในทางคดี เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้ออกคำสั่งนัดไต่สวนพิจารณาคดีฯ จำนวน 3 วัน ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ 

 

โดย นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี เปิดเผยว่า ภายหลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดไต่สวนเพื่อรับคำฟ้องกรณีการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 เปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การคัดเลือกโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) นั้น

 

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี

 

นายสุรพงษ์  กล่าวว่า เบื้องต้นศาลฯได้พิจารณาเอกสารเพิ่มเติมแล้ว ซึ่งไม่ได้ขัดข้องในการยื่นเอกสารทั้งฝ่ายโจทย์และจำเลยโดยมีกำหนดเริ่มนัดไต่สวนพิจารณาคดีฯ จำนวน 3 วัน ได้แก่วันที่ 14,20,24 ธ.ค.2564 หลังจากนี้ จะเป็นการไต่สวนพยานและพิจารณาเอกสารที่ยื่นฟ้องต่อศาลฯเพื่อประกอบการพิจารณาว่ามีมูลฟ้องหรือไม่

"ที่ผ่านมาการประมูลโครงการฯ เริ่มเกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนส.ค.2563 ขณะเดียวกันสิ่งที่บริษัทฯดำเนินการมาทั้งหมดเพื่อเพื่อให้เกิดความยุติธรรม โปร่งใส เราฟ้องไม่ได้เพื่อให้เราชนะ แต่ต้องการให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม

 

เชื่อว่าคดีดังกล่าวจะไม่ยืดเยื้อ และใช้ระยะเวลาไม่นาน คาดว่าจะได้ข้อมูลที่ชัดเจนก่อนที่จะมีการเริ่มนัดไต่สวนในวันที่ 14 ธ.ค.นี้

 

ส่วนการเปิดประมูลรอบใหม่นั้น หากรฟม.ยืนยันจะใช้เกณฑ์การประมูลโดยใช้เกณฑ์ด้านราคา 70 คะแนน และด้านเทคนิค 30 คะแนน ทางบริษัทจะเข้าร่วมประมูล แต่คงต้องพิจารณาหลักเกณฑ์การประมูลอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร" นายสุรพงษ์ กล่าว

 

 

นอกจากนี้ ในช่วงการไต่สวนวันนี้ ฝ่ายจำเลยหรือการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีการขอร้องต่อศาลฯ พิจารณาไม่ให้สัมภาษณ์ข่าว เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลต่อรูปคดีและข้อเท็จจริงมีความคลาดเคลื่อน แต่ทางบริษัทขอค้าน เพราะสิ่งที่บริษัทฯดำเนินการเป็นข้อเท็จจริง ซึ่งไม่ได้กระทบต่อรูปคดีแต่อย่างใด

 

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางศาลฯ พิจารณาเห็นด้วยกับบริษัทฯสามารถให้ข้อเท็จจริงได้ แต่ต้องระวังในการนำเสนอข่าวด้วย

logoline