ข่าว

"สบส." ส่งจนท.เก็บหลักฐาน รพ.ดัง ย่านพญาไท หลังพ่อแม่ร้องทำ "ลูกแรกคลอด" ตาย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ "สบส" ส่งจนท.เร่งสืบการเสียชีวิต "ทารกแรกเกิด" ในโรงพยาบาลเอกชน ย่านพญาไท หลังญาติร้องโรงพยาบาลไร้คำชี้แจงสาเหตุการเสียชีวิต

26 ต.ค.2564  จากกรณี  สามี-ภรรยา นำขบวนรถบิ๊กไบค์ กว่า 10 คน ร้องเรียนโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในเขตพญาไท ให้ชี้แจงถึงสาเหตุการเสียชีวิตของ ลูกชายวัยแรกเกิด  หลังผลการชันสูตรศพลูกชายพบว่า เด็กมีร่างกายและอวัยวะทุกส่วนสมบูรณ์แต่มีอาการปอดทะลุหลายจุด จึงออกมาเรียกร้องให้ทางโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว ชี้แจงการเสียชีวิต

 

ล่าสุด  นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวต้องขอแสดงความเสียใจกับคุณพ่อ-แม่ที่ต้องสูญเสียลูกชาย ซึ่งกรม สบส.ก็มิได้นิ่งนอนใจต่อการสูญเสียในครั้งนี้ จึงสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่จากกองกฎหมาย เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง  โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐาน และตรวจสอบเอกสารทางการแพทย์ เวชระเบียนของโรงพยาบาลฯ 

ซึ่งในเบื้องต้นทางโรงพยาบาล  ชี้แจงว่าเหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทารกเพศชายที่คลอดออกมามีอาการตัวซีดฟังเสียงหัวใจไม่ได้แพทย์จึงช่วยเหลือใส่ท่อช่วยหายใจ พร้อมเคลื่อนย้ายไปที่แผนกห้องเด็กอ่อนและมีการทำ CPR แต่เด็กไม่ตอบสนองต่อการรักษา และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่จะนำข้อมูลที่รวบรวมได้ทั้งหมดเสนอต่อสภาวิชาชีพ ให้ตรวจสอบในส่วนของการให้บริการว่าในขณะที่เกิดเหตุแพทย์และผู้เกี่ยวข้องของโรงพยาบาล มีการดำเนินการอย่างถูกต้องตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่ พร้อมกับจะเชิญผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาให้ถ้อยคำกับคณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียน เพื่อสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของทารก และให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่ายโดยเร็วที่สุด

 

 

 

นายแพทย์ธเรศ   กล่าวอีกว่า ด้วยสตรีมีครรภ์ถือเป็นกลุ่มเปราะบางที่มีสุขภาพ ร่างกายที่อ่อนแอกว่าบุคคลทั่วไป จึงมีความเสี่ยงด้านสุขภาพ ทั้งการเกิดภาวะโรคแทรกซ้อน อันตรายระหว่างการคลอด หรือสุ่มเสี่ยงที่จะติดโรคติดต่ออันตรายอย่างโรคโควิด-19 ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดเหตุที่ไม่คาดคิด หรือเกิดผลกระทบต่อผู้ป่วยในระหว่างการรักษาพยาบาล

 

กรม สบส. เน้นย้ำให้ผู้ประกอบกิจการ และผู้ดำเนินการสถานพยาบาลทุกแห่งกำชับกับบุคลากรของตนให้ดำเนินการกับสตรีมีครรภ์ทุกรายด้วยความระมัดระวัง ใส่ใจ ดูแล อย่างใกล้ชิด รวมถึง จะต้องมีการสื่อสารแนวทางการรักษาพยาบาลกับผู้ป่วยหรือญาติ ด้วยความโปร่งใส และชัดเจน เพื่อความเข้าใจต่อระบบบริการและการรักษาทางการแพทย์ ซึ่งหากผู้ป่วยและญาติไม่เข้าใจก็อาจจะนำไปสู่ข้อพิพาท หรือเรื่องร้องเรียนต่อไปได้ ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดไม่ได้รับความเป็นธรรมจากบริการของสถานพยาบาลเอกชน สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรม สบส. 1426

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ