ข่าว

"เปิดประเทศ" 1พ.ย.นี้ มั่นใจเอาอยู่เฝ้าระวังกลายพันธุ์หวั่นแฝงมากับนทท.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สธ.มั่นใจมาตรการรับ "เปิดประเทศ" 1 พ.ย. เข้มงวดตรวจหาเชื้อหวั่นโควิดกลายพันธุ์แฝงมากับนักท่องเที่ยว คุมเข้มช่วงเดินทางจากสนามบินมาโรงแรมต้องไม่เกิน 2 ชั่วโมงเท่านั้น

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงความพร้อมในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 พ.ย.  ว่า ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 พ.ย.นี้ โดยมีมาตรการการเปิดประเทศ 2 รูปแบบ คือ กำหนดกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำ 46 ประเทศ ที่สามารถเดินทางเที่ยวไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว แต่จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการป้องกันการแพร่เชื้อ ดังนี้ 

นักท่องเที่ยวจะต้องรับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม  มีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าไทย  และจะต้องพักในโรงแรมที่กำหนด SHA+  1 คืนเพื่อรอผลตรวจ RT-PCR หากผลเป็นลบจึงสามารถเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศได้ 

แบบที่ 2 เดินทางเข้าไปได้ทุกประเทศ แต่จะต้องเดินทางเข้าไทยภายใต้เงื่อนไขการป้องกันการแพร่ระบาด  โดยนักท่องเที่ยวจะต้องฉีดวัคซีนครบ 2 โดส มีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR และต้องมีผลเป็นลบ ท่องเที่ยวและพักในพื้นที่นำร่องก่อน 7 วัน ก่อนจะเดินทางไปท่องเที่ยวในพื้นที่อื่น ๆ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนของแต่ละจังหวัด  

สำรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาแล้วและเป็นกลุ่มเสี่ยงจะต้องดำเนินการตรวจหาเชื้อโดนทันที และนักท่องเที่ยวจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ หรือหากสามารถตกลงกับทางโรงแรมได้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการ  อย่างไรก็ตามขณะนี้หลายคนอาจจะกังวลถึงการกลายพันธุ์ของโควิด-19 ที่อาจจะกลับมาระบาดอีกครั้งหลังจากที่เปิดประเทศ โดยสธ. มีระบบการเฝ้าระวังมีการคัดกรองประเทศกลุ่มเสี่ยงอยู่แล้ว เช่นเดินทางมาจากพื้นที่ใด คลัสเตอร์ที่ไม่มีที่มาที่ไปมีการสุ่มตรวจ  หากเป็นพื้นทีเสี่ยงจะตรวจเข้มอยู่แล้ว  โดยสาธารสุขในพื้นที่สามารถตรวจหาเชื้อได้เลย  ดดยที่ สธ.มีน้ำยาเฉพาะส่งไปให้พื้นที่ช่วยตรวจ ในกรณีทีต้องการตรวจหาเชื้อเฉพาะ  โดยที่ผ่านมามีการตรวจสอบและเช็คได้ดี มีการพบการติดเชื้อในนักท่องเที่ยว ได้น้อยมาก และหากพบก็สามารถดำเนินการตรวจสอบได้ดี

ดร.สาธิต กล่าวต่อว่า  นอกจากนี้ตนได้รับรายงานจากกรมควบคุมโรค สำหรับการเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยได้มีการซักซ้อม และจัดระบบอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการกำหนดรายละเอียดเส้นทางจากสนามบินไปยังโรงแรม ซึ่งจะต้องใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง รวมไปถึงการกำหนดระยะเวลาที่นักท่องเที่ยวสามารถอยู่ในสนามบินเพื่อลดปัญหาความแออัด นอกจากนี้ สธ. ยังได้มีการหารือเกี่ยวกับการควบคุมประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ตามแนวชายแดน เกี่ยวกับแนวทางการเดินทางข้ามพรมแดนเข้ามายังประเทศไทยชั่วคราว โดยอาจจะมีแนวทางการตรวจหาเชื้อโควิด19 ด้วย ATK ก่อนที่จะอนุญาตให้ดินทางข้ามชายแดนเข้ามาเพื่อซื้อของ หรือทำการค้าขาย โดยกลุ่มนี้จะสามารถอยู่ในประเทศไทยแค่  1 วันเท่านั้น  อย่างไรก็ตามในประเด็นดังกล่าวจะมีการประชุมเพื่อหาข้อสรุปในแนวทางอีกครั้ง 

"สำหรับภาพรวมด้านความพร้อมในการประเทศขณะนี้นั้นไทยถือว่ามีมาตรการและความพร้อมค่อนข้างมาก โดยที่ผ่านมาจากการประพื้นที่ Sandbox ในพื้นที่นำร่องที่ผ่านมาพบว่าควบคุมการแพร่ระบาดได้ค่อนข้างดี เนื่องจากสธ. ได้กำชับให้จังหวัดเฝ้าระวัง และตรวจสอบนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวด รวมไปถึงการตรวจหาโควิดกลายพันธุ์ จากนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงด้วย ส่งผลให้สามารถส่งนักท่องเที่ยวเข้ารับการรักษาได้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะมีการแพร่เชื้อไปยังบุคคลอื่น ประกอบกับขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อ และความรุนแรงของโควิด-19 มีแนวโน้มลดลงและมีโอกาสที่จะกลายเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว รวมถึงการตรวจหาเชื้อที่ทำได้ง่ายขึ้น ค่าบริการที่ถูกลง จึงมั่นใจจะสามารถควบคุมการระบาดได้ค่อนข้างดี แม้ว่าจะมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว" ดร. สาธิต กล่าว 

logoline