ข่าว

รู้จัก "พ.ร.ฎ.แพลตฟอร์มดิจิทัล" หลังครม.ไฟเขียวคุมคนขายและคนซื้อออนไลน์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดรายละเอียด "พ.ร.ฎ.แพลตฟอร์มดิจิทัล" หลังครม.ไฟเขียวกฎหมายสำหรับควบคุมทั้งคนซื้อและคนขยายสินค้าออนไลน์ สร้างความน่าเชื่อถือทำธุรกรรมออนไลน์

ภายหลังจากที่ คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบ ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. ....  หรือ พ.ร.ฎ.แพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อรักษาความมั่นคงทางการเงินและการพาณิชย์ เสริมสร้างความน่าเชื่อถือและยอมรับในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งเพื่อป้องกันความเสียหายแก่สาธารณชน หรือประชาชนที่ใช้บริการ

 

มีสาระสำคัญและรายละเอียดดังนี้ 

 

1.ร่างกฎหมายนี้กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform) ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจและการให้บริการแพลตฟอร์มฯ ให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทราบก่อนการประกอบธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform) ให้บริการภายใต้มาตรฐานเดียวกัน ทั้งผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มฯ ไม่ว่าจะเป็นคนซื้อหรือคนขายสินค้าหรือบริการออนไลน์

2.ผู้ให้บริการ และผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ รับทราบข้อมูลที่จำเป็น เช่น เงื่อนไขการให้บริการ ช่องทางการร้องเรียน ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการใช้บริการแพลตฟอร์มฯ  ที่ผ่านมาหน่วยงานภาครัฐมีข้อมูลที่เพียงพอสำหรับใช้ในการดูแลความเสี่ยงในการให้บริการ เพื่อยกระดับการกำกับดูแลที่เหมาะสมกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจบริการนั้น รวมทั้งมีข้อมูลที่จะใช้ในการส่งเสริมสนับสนุนการประกอบธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลต่อไป

3.ธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. .... กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการควบคุมดูแลธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform) ที่ต้องแจ้งให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ทราบก่อนการประกอบธุรกิจ ประกอบด้วย บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล 

 

4.ร่างพระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับกับการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการแก่ผู้บริโภคภายในประเทศ ไม่ว่าผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มฯ จะอยู่ในราชอาณาจักรหรือนอกราชอาณาจักร

5.สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.)มีหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มฯ จัดทำแนวปฏิบัติที่ดีหรือมีกลไกในการกำกับดูแลตนเองที่เหมาะสม เช่น การระบุหรือพิสูจน์ทราบตัวตนของผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มฯ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย และจัดให้มีช่องทางร้องเรียนกลางพื่อให้ผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มฯ สามารถใช้เป็นช่องทางร้องเรียนปัญหาที่เกิดจากการให้บริการโดยแพลตฟอร์มฯ ขนาดเล็ก

ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform) มีหน้าที่ดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกานี้ภายใน 180 วันนับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา สำหรับผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มฯ ที่ประกอบธุรกิจก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ จะมีระยะเวลาเพิ่มเติมอีก 30 วันเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกานี้ รวมเป็นเวลาทั้งหมด 210 วันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

 

ปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform) หลากหลายลักษณะประเภทธุรกิจ เช่น Online Marketplaces, Social Commerce, Food Delivery, Space sharing, Ride/Car Sharing, Online Search Engines, App Store ซึ่งล้วนมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมมากขึ้น จำเป็นต้องมีการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform) เพื่อให้มีความโปร่งใสและเป็นธรรม ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือในการให้บริการ

logoline