ข่าว

ตำรวจผวา ผู้ต้องหาคดี "จี้แท็กซี่" เมาหนัก เกิดอาการวูบ ช็อกดับคาโรงพัก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจ สน.บางชัน ผวา คนร้ายคดี "จี้รถแท็กซี่" เมาหนัก เกิดอาการวูบ ช็อกดับหน้าห้องสืบสวนของโรงพัก ยืนยันไม่มีการทำร้ายร่างกาย

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้กุมคนร้าย ที่ก่อเหตุ "จี้รถแท็กซี่" แล้วมาเสียชีวิตบริเวณหน้าห้องสืบสวนของ สน.บางชัน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลา 22.00 น. ของวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น   

 

วันที่ 24 ตุลาคม 2564 พ.ต.อ.กิตติ แสงศิริวุฒิ ผกก.สน.บางชัน เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุมีเหตุทำร้ายร่างกายคนขับรถแท็กซี่ และมีการ "จี้รถแท็กซี่ชิงเอารถไปด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ได้รับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ กระทั่งได้รับแจ้งอีกว่า มีคนไปพบรถแท็กซี่คันดังกล่าว ไปจอดอยู่ข้าง โรงพยาบาลนพรัตน์ ในลักษณะติดกับเสาไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ จากการตรวจที่เกิดเหตุ สภาพรถแทบจะไม่มีความเสียหายอะไร 

 

ตำรวจผวา ผู้ต้องหาคดี "จี้แท็กซี่" เมาหนัก เกิดอาการวูบ ช็อกดับคาโรงพัก

 

ทั้งนี้ เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จึงทราบว่า ผู้ก่อเหตุ "จี้รถแท็กซี่ได้เดินย้อนกลับไปทางห้างในบริเวณนั้น ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ  จึงได้ไปทำการตรวจสอบ พร้อมกับสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ ขณะนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในลักษณะมึนเมา จึงพาตัวกลับมาที่ สน.บางชัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และรอให้ผู้ก่อเหตุได้ส่างเมา พอมาถึงสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันประคองผู้ก่อเหตุลงจากรถ ลงมานอนที่พื้นในสภาพเมาไม่ได้สติ ระหว่างนั้นตำรวจสังเกตเห็นผู้ตาย อยู่ลักษณะกระสับกระส่าย จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาดูอาการ และทำการซีพีอาร์ และประสานกู้ชีพของ รพ. ให้มาช่วยเหลือ ก่อนจะเสียชีวิตบริเวณห้องสายตรวจ "จี้รถแท็กซี่"

 

จากนั้นได้มีการประสานพนักงานอัยการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และแพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ ร่วมทำการชันสูตรพลิกศพ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต เบื้องต้นไม่พบบาดแผล ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ซึ่งต้องรอผลชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

พ.ต.อ.กิตติ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้น ขอยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย และไม่ได้มีการใช้กำลังใดๆ ทั้งสิ้น กับผู้ต้องหาคดี "จี้รถแท็กซี่แต่ดูจากลักษณะของผู้ตาย คาดว่าน่าจะเกิดจากการดื่มสุราค่อนข้างหนัก และเนื่องจากผู้ต้องหาเสียชีวิต ตำรวจต้องทำสำนวนไปตามขั้นตอน แต่ผลทางคดีอาญาต้องระงับไป เนื่องจากผู้ต้องหาเสียชีวิต ส่วนญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ