วัฒนา เมืองสุข เคลื่อนไหวแล้ว เรียนรู้สิทธิ์ปม"อัญเชิญพระเกี้ยว"
วัฒนา เมืองสุข ศิษย์เก่าจุฬาฯแสดงความเห็น กรณีองค์การฯนิสิตจุฬา ปลุกยกเลิกขบวน"อัญเชิญพระเกี้ยว"ในงานแข่งขัน ฟุตบอลประเพณี
โลกโซเชียลกระเพื่อมอีกครั้ง ภายหลัง องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุแถลงการณ์คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเรื่อง ยกเลิกกิจกรรมขบวน"อัญเชิญพระเกี้ยว"ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ทำให้บรรดาศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน รวมถึงประชาชนได้ออกมาแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง โดยล่าสุด นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย และศิษย์เก่าจุฬาฯได้แสดงความเห็นต่อปมร้อนดังกล่าว
โดยนายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ข้อความในสื่อโซเชียลเมื่อวันที่ 24 ต.ค. ระบุว่า การแข่งขันฟุตบอลประเพณีเป็นกิจกรรมของสมาคมนิสิตเก่าจุฬาฯ และสมาคมศิษย์เก่าธรรมศาสตร์
"ส่วนองค์การบริหารสโมสรนิสิตฯ (อบจ) เป็นหนึ่งในคณะทำงาน ถ้าคณะผู้จัดมีความประสงค์จะให้มีขบวนอัญเชิญก็เป็นเรื่องของผู้จัด ส่วน อบจ ไม่มีสิทธิห้ามใครใช้พระเกี้ยวเพราะพระเกี้ยวไม่ได้เป็นสมบัติของอบจ."
นอกจากนี้ ในโลกโซเชียลยังได้เขียนข้อความแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นนี้ ไว้อย่างน่าสนใจ อาทิ
อนึ่ง เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 64 องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า แถลงการณ์คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเรื่อง ยกเลิกกิจกรรมขบวน"อัญเชิญพระเกี้ยว"ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์
โดยระบุว่ากิจกรรมขบวน"อัญเชิญพระเกี้ยว" เป็นส่วนหนึ่งของขบวนพาเหรดในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยรูปแบบของขบวน"อัญเชิญพระเกี้ยว"นั้นจำลองขบวนแห่อย่างราชสำนัก
ในกิจกรรมดังกล่าวจะมี“ผู้อัญเชิญพระเกี้ยว” ถือ “พระเกี้ยว” ที่เป็นสัญลักษณ์สูงสุดของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นั่งบนเสลี่ยงซึ่งถูกแบกโดยนิสิตกว่า 50 คน อีกทั้งผู้อัญเชิญซึ่งมาจากกลุ่ม CU Coronet ยังถือว่าเป็นตัวแทนของความเป็นจุฬาฯ ในกิจกรรมการแข่งขันฟุตบอลประเพณีและในกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์อื่น ๆต่อไป
ทว่ากิจกรรมขบวน "อัญเชิญพระเกี้ยว" สนับสนุนและสะท้อนถึงระบอบอำนาจนิยม รวมถึงค้ำยันความเชื่อว่าคนไม่เท่ากัน รูปแบบกิจกรรมขบวน"อัญเชิญพระเกี้ยว" ยังเป็นภาพแทนของวัฒนธรรมแบบศักดินาที่ยกกลุ่มคนหนึ่งสูงกว่าอีกกลุ่มหนึ่ง พร้อมสัญลักษณ์ของศักดินาคือ “พระเกี้ยว” บนเสลี่ยง ในส่วนของกระบวนการคัดเลือกผู้อันเชิญฯ ยังเป็นที่กังขาถึงความโปร่งใส และยังมีข้อกังขาว่าเป็นการสนับสนุนความเป็นอภิสิทธิ์ชนผ่านค่านิยมมาตรฐานความงามแบบใดแบบหนึ่งในสังคม
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการใช้อำนาจในการบังคับให้คนต้องมาแบกเสลี่ยง ดังที่เห็นจากกระบวนการหานิสิตหอในเพื่อมาแบกเสลี่ยงเข้าสนามนั้นมีการบังคับผ่านการอ้างว่าจะมีผลต่อคะแนนการคัดเลือกให้มีสิทธิอยู่ในหอพัก
คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงเห็นว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่ล้าหลังอันขัดต่อคุณค่าสากลอย่างประชาธิปไตย ความเท่าเทียม และสิทธิมนุษยชน จากมติในวาระการประชุมสามัญครั้งที่ 1/2564 ของ คณะกรรมการบริหารฯ มีมติ 29:0 เสียง เห็นควรให้มีการยกเลิกกิจกรรมการคัดเลือก "ผู้อัญเชิญพระเกี้ยว" ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ เพื่อยุติการผลิตซ้ำธรรมเนียมปฏิบัติที่สะท้อนถึงความไม่เท่าเทียม มิให้คงอยู่ในสถาบันการศึกษาอีกต่อไป