ข่าว

"อัยการ" ชี้ "พ่อเลี้ยงโหด" ฆ่าลูกเลี้ยงวัย 8 ขวบ โดยทรมาน โทษหนักถึงประหาร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โฆษกอัยการสูงสุด ชี้ พฤติการณ์ "พ่อเลี้ยงโหด" จับลูกชายวันย 8 ขวบ มัดแล้วใช้เชือกแขวน ตีด้วยสายไฟตีจนเสียชีวิต เข้าข่ายความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต

22 ต.ค. 2564   จากกรณีนายวิรัช แซ่เฮ้ง อายุ 37 ปี "พ่อเลี้ยงโหด"  ก่อเหตุสะเทือนขวัญ ทารุณกรรม ลูกเลี้ยง ซึ่งเป็นเด็กชายวัยเพียง 8 ขวบ ด้วยการจับผูกโยงกับขื่อ แล้วตีด้วยสายไฟจนสลบ และยังนำปัสสาวะของเด็กที่อยู่ในขวดน้ำมากรอกปากเด็ก และทำร้ายร่างกาย จนเด็กบอบช้ำ และเสียชีวิตในที่สุด โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในบ้านในพื้นที ตำบลหนองแค จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัว พ่อเลี้ยงโหด รายนี้ได้ขณะกำลังหลบหนี ไปจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
 

สำหรับคดีสะเทือนขวัญ สะเทือนใจ ของ "พ่อเลี้ยงโหด" ดังกล่าว  นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี 4 ข้อหา คือ

1. ฐานฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย  

2. ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น

3. หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังนั้นถึงแก่ความตาย และ

4. กระทำการอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็ก ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ฯพ.ศ.2546

ซึ่งเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน โทษสูงสุดคือฐานฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน อันเป็นบทหนักสุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 มีโทษประหารชีวิตสถานเดียว 

 

แต่หากผู้ต้องหาอ้างว่า ไม่มีเจตนาฆ่า หรือทำร้ายให้ถึงแก่ความตายก็มีโทษจำคุกไม่เกิน15 ปี ซึ่งก็ต้องมาดูข้อเท็จจริงในคดี ผลการชันสูตรพลิกศพว่า ผู้ต้องหาเล็งเห็นผลอย่างไร มีเจตนาฆ่าหรือไม่ เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่ต้องรวบรวมพยานให้สมบูรณ์ครบถ้วนมากที่สุด ทั้งพยานวัตถุ ซึ่งรวมถึงการสอบปากคำของแม่ และพี่สาว อย่างละเอียด ที่เคยเห็นพฤติกรรมของผู้ต้องหามาก่อนส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้อง ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญ ที่จะต้องนำพยานหลักฐาน อาทิ ผลการชันสูตรศพ คำเบิกความพยานใกล้ชิด ทั้งของแม่ พี่สาว และพยานปากอื่นๆ แสดงต่อศาลให้เห็นถึงพฤติการ์ผู้ต้องหาเป็นอย่างไร ศาลจะมองว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยทรมานและทารุณกรรม หรือเป็นการทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและเป็นดุลพินิจของศาล
 

logoline