ข่าว

"นายกฯ" เร่งเครื่อง เปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยว 46 ปท. ความเสี่ยงต่ำกลุ่มแรก

"นายกฯ" เร่งเครื่อง เปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยว 46 ปท. ความเสี่ยงต่ำกลุ่มแรก

22 ต.ค. 2564

โฆษกรัฐบาล เผย "นายกฯ" เร่งเครื่องเตรียมพร้อม เปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยว 46 ประเทศความเสี่ยงต่ำกลุ่มแรก เดินทางเข้าไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว หวังสร้างรายได้พลิกโฉมประเทศ ขออย่าการ์ดตกดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา "นายกรัฐมนตรี" ได้ประกาศจำนวนกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ 46 ประเทศ ตามแผนเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว พร้อมย้ำให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานร่วมกัน ดำเนินการอย่างรอบคอบ รัดกุม และคำนึงถึงสถานการณ์ด้านสาธารณสุข

 

โดย "นายกฯ" เล็งเห็นว่า หากประเทศไทยต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศให้มากขึ้น กระตุ้นภาคการท่องเที่ยวและภาคธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องไทยจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าให้เร็วขึ้นและทำตั้งแต่ตอนนี้ เพราะการที่จะรอให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบก่อนนั้นจะทำให้ช้าเกินไป อีกทั้งนักท่องเที่ยวอาจจะตัดสินใจเลือกเดินทางไปประเทศอื่นก่อน แม้การเร่งเดินหน้าอย่างรวดเร็วนี้จะมีความเสี่ยงที่จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็เป็นความเสี่ยงที่เราต้องยอมรับประเทศไทยเองมีความสามารถในการรับมือกับความเสี่ยงของโควิด-19 ได้ดีขึ้น และเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับโควิดให้ได้

 

ทั้งนี้หลังจากที่ไทยได้ประกาศยกเลิกแผนการกักตัว ประเทศอื่น ๆ อาทิ อเมริกา อินโดนีเซีย (บาหลี) ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และมาเลเซีย ก็กำลังดำเนินการในลักษณะเดียวกัน รวมทั้งมีการผ่อนคลายมาตรการข้อบังคับต่างๆ และหลาย ๆ ประเทศที่เป็นนักท่องเที่ยวของประเทศไทย ก็เพิ่งประกาศผ่อนคลายให้ประชาชนของประเทศนั้น เดินทางออกนอกประเทศได้ง่ายขึ้น

 

 

 


 

นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำดังกล่าวได้โดยไม่ต้องกักตัว จะต้องเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว เดินทางเข้าประเทศไทยโดยทางอากาศและมีหลักฐานปลอดเชื้อโควิด โดยมีการตรวจก่อนออกเดินทาง และตรวจเมื่อมาถึงประเทศไทย ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป แต่ทั้งนี้ทุกประเทศคงต้องพิจารณาความเสี่ยงของประเทศไทยด้วยเช่นกัน ก่อนที่จะอนุญาตให้คนของประเทศเขาเดินทางมาประเทศไทยได้ 

 

โฆษกรัฐบาล กล่าวต่อว่า "นายกฯ" ได้กำหนดนโยบายเหล่านี้ต่อยอดจากความสำเร็จด้านการจัดการโรคในประเทศเพื่อเพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่ง "นายกฯ" ได้ขอบคุณกระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันทำภารกิจที่เต็มไปด้วยความกดดันนี้ พยายามแก้ไขและจัดการ กฏระเบียบ ขั้นตอน และกระบวนการต่าง ๆ ในระยะเวลาอันสั้น และตระหนักดีว่า ทุกคนทุกฝ่ายพยายามกันอย่างเต็มที่ และได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งเครื่องการฉีดวัคซีนให้เร็วมากยิ่งขึ้นไปอีก รวมทั้งขอให้ทุกคนยังคงรักษามาตรการทางสาธารณสุข มีวินัยในการสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ และรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลอยู่เสมอ