ข่าว

ราชกิจจาฯ ประกาศข้อกำหนด "ยกเลิกเคอร์ฟิว" พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ราชกิจจาฯ" ประกาศแล้ว ข้อกำหนดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว รับเปิดประเทศ เผย 8 มาตรการสำคัญ "ยกเลิกเคอร์ฟิว" พื้นที่นำร่องท่องเที่ยวตั้งแต่ห้าทุ่มของวันที่ 31 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป แต่ให้ปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ ไประยะหนึ่งก่อน เช็คเลยมาตรการคลายล็อครับเปิดประเทศได้ที่นี่

"ราชกิจจาฯ"ออกประกาศ ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19  ยกเลิกเคอร์ฟิวพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว รับ"เปิดประเทศ" เริ่มมีผลวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ 

 

22 ต.ค.64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อค่ำวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา "ราชกิจจานุเบกษา"  เผยแพร่ ข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๓๖)

 

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไป อย่างต่อเนื่องเป็นระยะ นั้น

 

โดยที่การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยมีแนวโน้มของสถานการณ์ คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ด้วยผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนในระดับคงที่ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง และผู้ได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการจัดหาวัคซีน และขับเคลื่อนแผนการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้แก่ประชาชนในภาคส่วนต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบัน อัตราการได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องครอบคลุมทุกภูมิภาคในประเทศ

 

รัฐบาลจึงเห็นว่ามีความจำเป็น ที่จะต้องมีการฟื้นฟูประเทศเพื่อประโยชน์ด้านการใช้ชีวิตความเป็นอยู่และด้านเศรษฐกิจแก่ประชาชน ในเบื้องต้นจึงเห็นควรให้มีการเปิดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว เพื่อเป็นปัจจัยเอื้อให้นักท่องเที่ยว สามารถเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศได้มากขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจและการจ้างงาน ในภาพรวมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคธุรกิจท่องเที่ยวและภาคธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่อง

ในการนี้ รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมโดยประสานความร่วมมือกับประเทศต้นทางและบูรณาการการทำงาน ของพนักงานเจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วนในการกำหนดมาตรการรองรับเพื่อให้การปฏิบัติ ตามมาตรการต่าง ๆ ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบควบคู่กับ การกำหนดมาตรการทางด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ให้ประชาชนมีความปลอดภัย รวมทั้งสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติและประชาชน

 

อันจะส่งผลให้การขับเคลื่อน ทางเศรษฐกิจและสังคมสามารถดำเนินการควบคู่กับมาตรการด้านสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังที่เริ่มปฏิบัติกันในประเทศต่าง ๆ ที่มีสถานการณ์คล้ายคลึงกัน

 

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ และมาตรา ๑๑ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔

 

นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลายตามคำแนะนำของศูนย์บริหาร สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) (ศบค.) ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ การกำหนดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว

ให้มีการกำหนดเขตพื้นที่นำร่อง (Sandbox) ด้านการท่องเที่ยวขึ้น เพื่อการดำเนินการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจของประเทศควบคู่กับ การกำหนดมาตรการควบคุมและป้องกันโรคในพื้นที่แบบบูรณาการ โดยพิจารณาถึงความเหมาะสม ความพร้อม และบริบทของแต่ละพื้นที่

 

ทั้งนี้ เพื่อการบังคับใช้ให้เหมาะสมและเป็นการเฉพาะจาก เขตพื้นที่จังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์ การกำหนดเขตพื้นที่ใดให้เป็นเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวตามวรรคหนึ่ง หรือ การปรับปรุงเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวดังกล่าว ให้เป็นไปตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19 ) ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยน ได้ตามสถานการณ์
 

ข้อ ๒ การกำหนดมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว

ให้สถานที่ กิจการ หรือการดำเนินกิจกรรมในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว สามารถเปิดดำเนินการได้ ภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบ ระเบียบ และมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด เช่น มาตรการป้องกันกำรติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) มาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) รวมทั้งมาตรการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อที่ผู้รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ กำหนดขึ้นเป็นการเฉพาะ

 

ข้อ ๓ การยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน

ให้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวซึ่งเดิมเคยกำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จากการจำแนกจังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์ แต่ได้มีคำสั่งกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่นำร่อง ด้านการท่องเที่ยวตามข้อกำหนดนี้ ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่เวลา ๒๓.๐๐ นาฬิกา ของวันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

 

ข้อ ๔ การห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว

ห้ามจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่าห้าร้อยคนในเขตพื้นที่นำร่อง ด้านการท่องเที่ยว ให้นำวิธีปฏิบัติในส่วนของข้อห้ามการจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ขั้นตอน การขออนุญาตจัดกิจกรรม การพิจารณาอนุญาต รวมทั้งกิจกรรมหรือการรวมกลุ่มที่ได้รับการยกเว้น ให้สามารถจัดได้โดยไม่ต้องขออนุญาตตามข้อ ๔ และข้อ ๕ แห่งข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๓๐) ลงวันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ มาใช้บังคับด้วย

 

ข้อ ๕ การเตรียมความพร้อมของสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่นำร่อง ด้านการท่องเที่ยว

ในระยะเริ่มแรกของการดำเนินการเปิดเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ให้สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวยังคงปิดดำเนินการไว้ก่อนในช่วงเวลานี้

 

โดยให้หน่วยงาน และผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมเพื่อการผ่อนคลายมาตรการตามที่ได้ประกาศไว้แล้วในข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘  (ฉบับที่ ๓๕) ลงวันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อให้สามารถเปิดดำเนินการได้ต่อไปตามแผน และกรอบเวลาที่รัฐบาลจะประกาศกำหนด

 

ข้อ ๖ การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยภายในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว และการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมของแต่ละจังหวัด

ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหำนคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัดโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี เสนอต่อศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 (ศปก.ศบค.) เพื่อตรวจสอบ กลั่นกรอง และเสนอนายกรัฐมนตรีให้พิจารณาปรับระดับความเข้มข้นหรือ การผ่อนคลายของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในระดับท้องที่หรือเขตอำเภอที่อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัด ในความรับผิดชอบของตนได้ตามความจำเป็นแห่งสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด - 19 ในห้วงเวลาต่าง ๆ ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาดำเนินการตามพระราชบัญญัติ โรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยสั่งปิด จำกัด หรือห้ามการดำเนินการของสถานที่ หรือสั่งให้งด การทำกิจกรรมอื่นในเขตพื้นที่รับผิดชอบซึ่งมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มเติมจากมาตรการ ควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวได้ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์การระบาด ของโรคติดเชื้อโควิด - 19

 

ข้อ ๗ การกำหนดผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพิ่มเติม

เพื่อเอื้อต่อการเดินทางเข้าราชอาณาจักรของบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศต้นทางซึ่งได้รับการประเมินตำมเกณฑ์ที่ กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และได้มีการประสานความร่วมมือเพื่อดำเนินการตามแผนการเปิดประเทศ ของรัฐบาล ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (๑๓) ของข้อ ๑ การเดินทางเข้ามาในราชอำณำจักรของข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๑๒) ลงวันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อ ๓ ของข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๑๓) ลงวันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ และข้อ ๑ ของข้อกำหนดออกตามความ ในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๖) ลงวันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๔

“(๑๓) ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ ควบคู่กับความมั่นคงด้านสาธารณสุขตามแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล”

 

ข้อ ๘ มาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร

การกำหนด มาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรในประเภทซึ่งเป็นผู้ได้รับอนุญาต ให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจควบคู่กับความมั่นคงด้านสาธารณสุข ตามแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล ตามที่ได้เพิ่มเติมโดยข้อกำหนดนี้ เช่น การกำหนดประเทศหรือ พื้นที่ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการมาตรการเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศอนุมัติ การมีหนังสือรับรองหรือหลักฐานการลงทะเบียนการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร การได้รับวัคซีน ป้องกันโรคครบตามเกณฑ์ การตรวจยืนยันว่าไม่มีเชื้อโรคโควิด - 19 การมีกรมธรรม์ประกันภัย ที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายการรักษำพยาบาลตามเกณฑ์ที่กำหนด และหลักฐานการชำระค่าที่พัก ให้เป็นไป ตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 (โควิด - 19 )

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชำ นำยกรัฐมนตรี

 

คลิกอ่านราชกิจจาฯฉบับเต็ม...

ข้อกำหนดคลายล็อคโควิด-19 รับเปิดประเทศ 1 พ.ย.

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ