ข่าว

"ป.ป.ส." ตร.ภ.5 จับ "ยาเสพติด" บิ๊กลอต พร้อมตั้ง 5 แสน ล่านายทุนแก๊ง "หนูเจิ้น"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ป.ป.ส. ตั้งรางวัล 5 แสน ผู้แจ้งเบาะแส "สันติ แซ่ลี" นายทุนใหญ่ขบวนการ “หนูเจิ้น” เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ หลังรวบ 2 ผู้ต้องหาร่วมลำเลียงจากชายแดนเชียงราย ซุกโกดังอยุธยา จ่อส่งชื่อ เข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดลำดับปฏิทินหมายจับ

21 ต.ค.2564  ที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภาค 5 (ผบช.ภ.5) ร่วมกันแถลงการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญ ผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลาง ไอซ์ 288 กิโลกรัม ยาบ้า 4.4 ล้านเม็ด ตรวจยึดทรัพย์สินเงินสด 110,000 แสนบาท และทองรูปพรรณ 2 รายการ

"ป.ป.ส." ตร.ภ.5 จับ "ยาเสพติด" บิ๊กลอต พร้อมตั้ง 5 แสน ล่านายทุนแก๊ง "หนูเจิ้น"

 

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุม นายชาญชัย แซ่เล่า และพวกรวม 4 คน พร้อมของกลางเป็น ยาบ้า 5,900,000 เม็ด และรถจักรยานยนต์ 4 คัน ได้ที่ด่านตรวจยาเสพติด แม่โถ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา และจากการขยายผลพบ กลุ่มผู้ต้องหาเคยนำยาเสพติดไปส่งที่โกดัง บริเวณ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มีการติดป้ายอำพรางว่า เป็นร้านรับซื้อของเก่า โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ได้

 

เบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ถูกจ้างวานมาจากนาย สันติ แซ่ลี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติดรายสำคัญ และอยู่ระหว่างการติดตามตัว ขยายผลจากของกลางยาเสพติดที่ตรวจพบ ซึ่งจะไปเปรียบเทียบกับยาเสพติดในคดีต่างๆ ที่เคยจับกุมได้ก่อนหน้านี้ในพื้นที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5(บช.ภ.5) โดยการตรวจสอบ ยาไอซ์ ที่บรรจุเป็นห่อ พบว่าเป็นการส่งผ่านพื้นที่ภาคใต้ก่อนส่งต่อไปยังประเทศที่สาม ส่วนยาบ้า เชื่อว่าจำหน่ายอยู่ภายในประเทศไทย

 

"ป.ป.ส." ตร.ภ.5 จับ "ยาเสพติด" บิ๊กลอต พร้อมตั้ง 5 แสน ล่านายทุนแก๊ง "หนูเจิ้น"

 

อย่างไรก็ตาม การติดตามจับกุมนายสันติ หัวหน้าขบวนการ พบว่าหลบหนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ชื่อเครือข่ายว่า “หนูเจิ้น” ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. เตรียมตั้งรางวัลนำจับ มูลค่ากว่า 5 แสนบาท โดยจะมีการขอข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อจัดทำลำดับความสำคัญ และมูลค่ารางวัลนำจับ เผยแพร่ในรูปแบบโปสเตอร์ หรือปฏิทินหมายจับเพื่อให้ประชาชนที่อยู่ทั้งในและต่างประเทศช่วยติดตามจับกุมตัว โดยผู้แจ้งเบาะแสจะได้เงินรางวัล 75 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่จับกุมจะได้ส่วนแบ่ง 25 เปอร์เซ็นต์
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ