ตำรวจน้ำ จับ "น้ำมันเถื่อน" 4 แสนลิตร กลางอ่าวไทย พบ รวบลูกเรือ 4 ราย ขณะกำลังลักลอบนำน้ำมันเข้ามาในราชอาณาจักร โดยผิดกฎหมาย
ตามนโยบายของรัฐบาล ให้ทำการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการ ลอบนำน้ำมันเชื้อเพลิง "น้ำมันเถื่อน" เข้ามาจำหน่ายภายในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย โดยในส่วน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.ใน ฐานะ ผอ.ศปนม.ตร. และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จึงได้ สั่งการให้ พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ทำการสืบสวนจับกุมกลุ่ม ขบวนการลักลอบนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงโดยผิดกฎหมาย
กระทั่งวันที่ 17 ต.ค. 64 เวลา ประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีการลักลอบขน "น้ำมันเถื่อน" ดีเซลผิดกฎหมายเข้ามาเพื่อจำหน่ายในพื้นที่อ่าวไทยตอนบน จึงนำเรียนผู้บังคับ บัญชาทราบ และได้สั่งการให้นำเรือตรวจการณ์ 631 พร้อมกำลังพลออกลาดตระเวนใน พื้นที่ตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับ เมื่อไปถึง ณ บริเวณที่เกิดเหตุ เวลาประมาณ 15.30 น. พบ เรือบรรทุก "น้ำมันเถื่อน" สีขาว สะพานเดินเรือสีดำ หัวเรือระบุชื่อเรือ “เหนือสมุทร 9” (ชื่อตาม ทะเบียนเรือ ชื่อว่า เทคซ่า) กำลังลอยลำอยู่บริเวณที่เกิดเหตุบริเวณใกล้เกาะสีชัง ละติจูด 13 องศา 8.850 ลิปดาเหนือ ลองติจูด 100 องศา 50.258 ลิปดาตะวันออก
เจ้าหน้าที่ ตำรวจจึงสั่งการให้เรือลำดังกล่าวหยุดลอยลำ และขึ้นทำการตรวจสอบ พบ นายสุวรรณ อินทองปาน (หัวหน้าเรือ) จึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ขอเข้าทำการตรวจเรือ และได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเรือ ซึ่งนายสุวรรณ อินทองปาน ให้การว่า เรือดังกล่าวชื่อ เทคซ่า เป็นเรือบริการรับของเสีย ทะเบียน 465000132
มีคนประจำเรือ ทั้งหมด 4 คน คือ นายสุวรรณ (สงวนนามสกุล)อายุ 56 ปี (หัวหน้าเรือ/นายท้ายเรือ) , นายมนตรี อายุ 41 ปี (นายช่างกลเรือ) , นายสุริยันต์ อายุ 34 ปี (ลูกเรือ) , นายพุทธรักษ์ อายุ 37 ปี (ลูกเรือ)
ผลการตรวจสอบของเหลว "น้ำมันเถื่อน" ประมาณ 400,000 ลิตร ที่บรรทุกมาทราบว่าเป็น น้ำมันดีเซล เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขอดูเอกสารเกี่ยวกับการได้มาของของเหลวที่บรรทุกในระวาง แต่นายสุวรรณ ไม่สามารถนำเอกสารที่เกี่ยวข้องมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงสั่งการให้นำเรือมาทิ้งสมอ บริเวณปากคลองสรรพสามิต ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และได้ประสานกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิต และเจ้าหน้าที่ศุลกากร เพื่อร่วมทำการตรวจสอบสารมาร์คเกอร์
ผลการตรวจสอบพบว่ามีค่าสาร มาร์คเกอร์ 27 หน่วย ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นน้ำมันดีเซล ที่จำหน่ายส่งออกต่างประเทศเท่านั้น โดย "น้ำมันเถื่อน" เหล่านี้ได้รับยกเว้นภาษีสรรพสามิตแล้ว และเมื่อนำกลับเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีทางศุลกากร ถือว่าเป็นการลักลอบนำ "น้ำมันเถื่อน" เข้ามาในราชอาณาจักรโดย ผิดกฎหมาย จึงได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย นำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง