ข่าว

"กระทรวงยุติธรรม" เร่งฉีด "วัคซีน" เข็ม2 ให้นักโทษ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"กรมราชทัณฑ์" มีเรือนจำพ้นจากการระบาด 2 แห่ง เตรียม EXIT เพิ่มอีก 4 แห่งในสัปดาห์นี้ พร้อมเริ่มฉีด "วัคซีน" เข็มที่ 2 ให้นักโทษทุกคนภายในพรุ่งนี้

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม 2564 เวลา 10.30 น. ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม หรือ ศบค.ยธ  เป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานตาม 5 แผนงานการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์โควิด -19 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ครั้งที่ 76/2564 โดยมี นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษก ศบค.ยธ. นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน  พ.ต.ท.มนตรี บุณยโยธิน รองอธิบดีกรมคุมประพฤติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference) ร่วมกับผู้บัญชาการเรือนจำในจังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 

นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษก ศบค.ยธ. เปิดเผยว่า ภาพรวมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำ/ทัณฑสถานวันนี้ มีเรือนจำพ้นจากการระบาดเพิ่ม 2 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดยโสธร และเรือนจำจังหวัดชัยภูมิ โดยไม่มีเรือนจำระบาดใหม่ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ส่งผลให้เรือนจำสีแดงลดลงเหลือ 15 แห่ง และเรือนจำสีขาว 127 แห่ง ขณะที่มีเรือนจำจะพ้นจากการระบาดเพิ่มอีก 4 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดสระแก้ว ทัณฑสถานวัยหนุ่มพระนครศรีอยุธยา ทัณฑสถานวัยหนุ่มนครศรีธรรมราช และเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานีภายในวันนี้ 21 ตุลาคมนี้

ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ พบเพิ่ม 41 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 5 ราย และในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 36 ราย) รักษาหายเพิ่ม 91 ราย ไม่มีรายงานการเสียชีวิตในวันนี้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 1,872 ราย (กลุ่มสีเขียว 66.9% สีเหลือง 31.3% และสีแดง 1.8%) โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 68,045 ราย หรือกว่า 94.5% ของผู้ติดเชื้อสะสม 71,977 ราย เสียชีวิตสะสม 159 ราย คิดเป็นอัตรา 0.2% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด

นายวัลลภ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุม ศบค.ยธ.  โดยมีปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ได้ติดตามการสำรวจจำนวนห้องกักกันโรคของเรือนจำและทัณฑสถาน ทั้งแบบกักโรคผู้ต้องขังก่อนปล่อย และห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ เพื่อให้การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคสามารถดำเนินการอย่างเป็นระบบมากขึ้น ตลอดจนมาตรการเพิ่มเติมในเรือนจำที่เกิดการระบาดซ้ำ ที่ต้องวางแนวทางในการบริหารสถานการณ์แตกต่างจากการระบาดในครั้งแรก ทั้งในแง่ของการกระจายตัวของเชื้อที่น้อยลง รวมทั้งอาการของโรคที่ไม่รุนแรงมากนัก ซึ่งต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อสรุปและจัดทำเป็นมาตรการอีกครั้ง

ขณะที่การบริหารจัดการ "วัคซีน" แก่ผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการฉีดไปแล้วทั้งสิ้น 287,871 โดส เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 1,517 โดส แบ่งเป็นการฉีด "วัคซีน" แก่ผู้ต้องขัง เข็มที่ 1 จำนวน 216,972 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 70,899 ราย และในวันพรุ่งนี้ (19 ตุลาคม) กรมควบคุมโรคจะจัดส่งวัคซีน เข็มที่ 2 เป็นวัคซีน "แอสตร้าเซนเนก้า" (AstraZeneca) ตามสูตรการ"ฉีดวัคซีน" แบบไขว้ของกระทรวงสาธารณสุข ไปยังโรงพยาบาลแม่ข่ายของแต่ละเรือนจำเพื่อเร่งฉีดให้แก่ผู้ต้องขังที่ได้รับเข็มแรกไปแล้วตามระยะเวลา ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยในส่วนของการ "ฉีดวัคซีน" เข็มกระตุ้นหรือเข็มที่ 3 ในกลุ่มผู้ต้องขังที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) ครบ 2 เข็มไปแล้วนั้น ยังอยู่ระหว่างการประสานกับกรมควบคุมโรคเพื่อหาแนวทางในการจัดสรรและการบริหารจัดการเพิ่มเติมในระยะต่อไป

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ