ข่าว

"เปิดประเทศ" 1 พ.ย. คนไทยมอง ยังไม่ถึงเวลา อุปสรรคหลัก วัคซีนไม่ครอบคลุม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจ "เปิดประเทศ" 1 พ.ย. คนไทยส่วนใหญ่มอง ยังไม่ถึงเวลา ชี้ อุปสรรคหลัก "วัคซีนโควิด" ยังไม่ครอบคลุม

"สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,392 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 11-14 ตุลาคม 2564 หัวข้อ "เปิดประเทศ 1 พ.ย.64" เพื่อสะท้อนความคิดเห็นกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป จะเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว สรุปได้ดังนี้

 

1. ประชาชนคิดว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประเทศไทยจะเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว

  • ยังไม่ถึงเวลา 60.10%
  • ถึงเวลาแล้ว 39.90%       

2. "5 ปัจจัย" ที่จะช่วยให้เปิดประเทศได้ตามกำหนด

 

  • อันดับ 1 ฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้กับประชาชนได้เกิน 70%     74.78%
  • อันดับ 2 คุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้     69.04%
  • อันดับ 3 ความพร้อมทางด้านสาธารณสุข โรงพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์    68.31%
  • อันดับ 4 มีการตรวจเชิงรุกอย่างสม่ำเสมอ/ตรวจคัดกรองก่อนเข้าสถานที่ต่าง ๆ 66.03%
  • อันดับ 5 สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น สนามบิน รถสาธารณะ ร้านอาหาร โรงแรม 65.00%

 

 

3. "ข้อจำกัด" ที่ทำให้การเปิดประเทศมีอุปสรรค คือ

 

  • อันดับ 1 ประชาชนยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน 71.60%
  • อันดับ 2 อาจเกิดการระบาดภายในประเทศมากขึ้น 70.45%
  • อันดับ 3 อาจเกิดการแพร่เชื้อจากกลุ่มที่เดินทางเข้าประเทศ 66.11%
  • อันดับ 4 กังวลโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ 61.05%
  • อันดับ 5 ขาดแผนรองรับที่ชัดเจน 55.92%

 

4. "ผลดี" ของการเปิดประเทศ คือ

 

  • อันดับ 1 กระตุ้นเศรษฐกิจ/เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ 77.29%
  • อันดับ 2 ประชาชนมีงานทำ/สามารถทำมาหากินได้ 74.74%
  • อันดับ 3 สร้างรายได้ให้กับประเทศและในพื้นที่ท่องเที่ยว 68.07%
  • อันดับ 4 ผู้ประกอบการ ธุรกิจท่องเที่ยวฟื้นตัว 64.17%
  • อันดับ 5 สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน/ผู้ประกอบการ 57.80%

 

 

5. "ผลเสีย" ของการเปิดประเทศ คือ

 

  • อันดับ 1 อาจเกิดการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้น 83.43%
  • อันดับ 2 ต้องกลับมาล็อกดาวน์อีกครั้ง 74.60%
  • อันดับ 3 กระทบต่อความพร้อมด้านสาธารณสุข เช่น จำนวนเตียง บุคลากรทางการแพทย์ 59.55%
  • อันดับ 4 อาจเกิดการลักลอบเข้าประเทศตามชายแดน 54.85%
  • อันดับ 5 กระทบกับการใช้ชีวิตของประชาชนในประเทศ 48.19%

 

6. ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่กับ "การเปิดประเทศ" วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564

 

  • ไม่เห็นด้วย 59.86%        
  • เห็นด้วย 40.14%
  •  

นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัยสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจเมื่อพิจารณากลุ่มตัวอย่างจำแนกรายอาชีพ พบว่า กลุ่มอาชีพประกอบธุรกิจ เห็นด้วยกับการเปิดประเทศมากที่สุด รองลงมาคือกลุ่มรับจ้าง/ลูกจ้าง ถึงแม้ว่าจะกังวลเรื่องการติดเชื้อใหม่ แต่คาดว่า จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และเกิดการจ้างงานมากขึ้น สร้างความหวังที่จะลืมตาอ้าปากได้ ดังนั้น รัฐบาลจึงควรมีมาตรการรองรับที่ชัดเจน สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ทั้งด้านสุขภาพ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน

 

ด้าน อาจารย์วัลลภ ห่างไธสง รองคณบดี โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลมีนโยบาย "เปิดรับนักท่องเที่ยวให้เข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว แต่มีเงื่อนไขว่า จะต้องเดินทางมาจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ และต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว" ถือเป็นความเสี่ยงที่ท้าทายมาก เนื่องจากจำนวนประชากรคนไทยที่ได้รับการฉีดวัคซีนทั่วประเทศแล้วนั้น ยังมีจำนวนตัวเลขเพียงแค่ 50 กว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งผลสำรวจจากสวนดุสิตโพล พบว่า ประชาชนร้อยละ 60.10 คิดว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว แต่รัฐบาลมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อที่จะให้ประเทศชาติเดินต่อไปข้างหน้าให้ได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีค่า GDP ที่สูงขึ้น

"แน่นอนว่าเมื่อการเปิดประเทศเกิดขึ้นจริง ธุรกิจทุกภาคส่วนย่อมต้องมีการขับเคลื่อนไปข้างหน้า ซึ่งต้องใช้แรงงานคนมากขึ้น อาจมีการลักลอบเข้าเมืองของคนต่างด้าวที่ผิดกฎหมายได้ รัฐบาลควรทำให้คนเหล่านี้ถูกกฎหมาย เพื่อที่จะได้รับการฉีดวัคซีนจากภาครัฐ เพื่อความปลอดภัยของแรงงานต่างด้าวและประชาชนภายในชาติของเราด้วยเช่นเดียวกัน" 

 

"เปิดประเทศ" 1 พ.ย. คนไทยมอง ยังไม่ถึงเวลา อุปสรรคหลัก วัคซีนไม่ครอบคลุม

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ