
ตร.จ่อ 2 ข้อหาหนัก สาว 34 "มือตัดเชือกช่างทาสี" "พยายามฆ่า-ทำให้เสียทรัพย์"
ตำรวจปากเกร็ด เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน แจ้ง 2 ข้อหาหนัก "ทำให้เสียทรัพย์-พยายามฆ่า"สาววัย 34 ปี ผู้ต้องสงสัย "ตัดเชือกช่างทาสี" พบประวัติ ชอบโทรป่วนตำรวจเป็นประจำ เจ้าตัวลั่นไม่เกี่ยว
16 ต.ค. 2564 ความคืบหน้ากรณีโลกออนไลน์ แชร์คลิปหนุ่มช่างทาสี ถูกคนแอบตัดเชือกขณะโรยตัวทำงานอยู่บนอาคารสูง 32 ชั้น บริเวณ ห้าแยกปากเกร็ด จ.นนทบุรี เจ้าตัวรู้สึกถึงความผิดปกติ ไม่สามารถทำงานต่อได้เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นอันตราย และได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าของห้องพัก บนชั้น 26 เพื่อขออนุญาตปีนระเบียงเพื่อผ่านลงชั้นล่าง
โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ติดต่อฝ่ายนิติบุคคลประจำลุมพินีคอนโดปากเกร็ด นำช่างประจำอาคารเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน นานกว่า 3 ชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์แต่อย่างใด
พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยภายหลัง ประชุม ร่วมกับ พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนนทบุรี และชุดสืบสวน ว่า ขณะนี้พอจะรู้ตัวบุคคลผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นคนตัดเชือกโรยตัวของช่างทาสีแล้ว คาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริงเนื่องจากพยานหลักฐาน เป็นพยานแวดล้อมทั้งพยานบุคคลและภาพจากกล้องวงจรปิดบางส่วน
อย่างไรก็ตามผู้ต้องสงสัยรายนี้ยังไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเร่งประสานเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ ทำการตรวจดีเอ็นเอ และรอยตัดเชือก ซึ่งขณะนี้ได้ส่งไปยังกองพิสูจน์หลักฐานสํานักงานตํารวจแห่งชาติตรวจสอบแล้ว และวันนี้ (16 ต.ค.) ได้เรียกนิติบุคคลของคอนโดดังกล่าวมาสอบปากคำในประเด็นลูกบ้านโดยเฉพาะชั้น 21 มีกี่ห้อง แต่ละห้องมีผู้พักอาศัยกี่คน วันเวลาเกิดเหตุแต่ละห้องมีคนอยู่กี่คนและผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญอยู่ที่ห้องหรือไม่ หากผลการสืบสวน และผลนิติวิทยาศาสตร์ออกมาตรงตามที่ตั้งข้อสงสัยไว้ ตำรวจพร้อมแจ้งข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ และพยายามฆ่า ได้ทันที
ขณะที่ ผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นผู้หญิง อายุ 34 ปี อาศัยอยู่ที่ ชั้น 21 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อ นามสกุลแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ประสานผู้จัดการนิติบุคคลคอนโดกลางดึกที่ผ่านมา เพื่อเข้าตรวจสอบบริเวณห้องพักผู้ต้องสงสัย แต่ผู้ต้องสงสัยได้หยิบโทรศัพท์มือถือเข้ามาถ่ายภาพเจ้าหน้าที่สืบสวนทุกนายไว้ พร้อมขู่ว่าจะฟ้องร้องตำรวจต่อพฤติกรรมดังกล่าว
อย่างไรก็ตามผู้ต้องสงสัยให้ความร่วมมือในการตรวจสอบห้องพักเป็นอย่างดี เบื้องต้นให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นเรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาให้ปากคำแต่ผู้ต้องสงสัยไม่ยิมยอม และจากการตรวจสอบพบว่า ที่ผ่านมามีพฤติกรรมชอบโวยวายโทรศัพท์ร้องเรียนที่ สภ.ปากเกร็ด เดือนละหลายครั้ง แต่พอเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบก็ไม่พบเรื่องที่ร้องเรียน จนเจ้าหน้าที่จำเสียงและเบอร์โทรศัพท์ได้ว่าเป็นหญิงสาวคนเดียวกัน เบื้องต้น พล.ต.ต.ไพศาล สั่งการให้เร่งรวมรวมหลักฐานออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวมาสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป