แจ้งจับ ครู ร.ร.ชายล้วน ลวง ด.ช.11ขวบ "ล่วงละเมิดทางเพศ" นานกว่า 3 ปี

15 ต.ค.  นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำผู้ปกครอง และเด็กชาย อายุ 11 ปี นักเรียนชั้นประถม โรงเรียนชายล้วน สังกัด กทม. ย่านบางแค เข้าร้องทุกข์เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) กรณีถูกครูผู้ชายในโรงเรียน กระทำอนาจารในห้องน้ำโรงเรียนมาตั้งแต่ปี 2561  ถึงปัจจุบัน และครูคนดังกล่าวได้กระทำในลักษณะเดียวกันกับเด็กชายคนอื่นในโรงเรียนเดียวกันอีกหลายราย  โดยมี พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม. ควบคุมการสอบสวน

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า เด็กชายวัย 11 ปี เข้าแจ้งความเอาผิดครูผู้ชายในโรงเรียน หลังถูกล่วงละเมิดทางเพศมานานกว่า 3 ปี  จนภายหลังรู้สึกทนไม่ไหว จึงนำเรื่องมาบอกเล่าให้พี่สาวและครอบครัวฟัง จนนำมาสู่การแจ้งความในวันนี้ 

จากการสอบถามพฤติกรรมของครูรายนี้ มักจะมาชักชวนเด็กชายไปเข้าห้องน้ำ และกระทำการอนาจาร  จากนั้นก็จะปล่อยเด็กออกไป ซึ่งครูรายนี้ก่อเหตุในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง และเท่าที่ทราบมีเด็กชาย ที่ถูกกระทำเช่นเดียวกัน ตกเป็นผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 5 ราย  ซึ่งนักเรียนชั้นประถม ตั้งแต่ชั้นประถม 3 ถึง ประถม 6 ซึ่งที่ผ่านมาหลังเกิดเหตุเด็กชายได้มีการเล่าให้ครูประจำชั้นฟัง แต่เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐาน จึงไม่สามารถดำเนินการเอาผิดกับครูรายดังกล่าวได้  จึงได้เพียงเฝ้าระวังไม่ให้ครูผู้ก่อเหตุนำเด็กไปกระทำอนาจารอีก โดยเวลาครูรายนี้เข้าใกล้ เด็กจะขอให้ครูประจำชั้นมานั่งข้าง ๆ  

จากการสอบปากคำเบื้องต้น ครูชายคนดังกล่าว มีพฤติกรรมปกติเหมือนครูทั่วไป มีลูกและภรรยา ไม่ได้มีพฤติกรรมทำร้ายร่างกาย ส่วนจะมีพฤติกรรมข่มขู่หรือไม่นั้น  ต้องมีการสอบปากคำเด็กชายอย่างละเอียดก่อน  เนื่องจากเด็กมีความกลัว ไม่กล้าเจอหน้าครูรายนี้  และปัจจุบันครูคนดังกล่าวยังทำการสอนอยู่ตามปกติ  ไม่ได้มีการยุติบทบาท หรือได้รับบทลงโทษแต่อย่างใด 

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า หลังจากกรณีการกระทำอนาจารเด็กชาย ถูกเปิดเผยผู้บริหารโรงเรียน ได้ติดต่อขอเคลียร์คดี  แต่ตนได้ปฏิเสธ ไม่ยอมความ และคดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับเยาวชนไม่สามารถยอมความได้อยู่แล้ว และหากผู้บริหารโรงเรียนยังแบบนี้อีก จะดำเนินดคีกับผู้บริหารด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ณรงค์  กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้สอบปากคำเด็กชายผู้เสียหาย พร้อมครอบครัว  นักจิตวิทยา และสหวิชาชีพ ทำให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยคดีดังกล่าวเบื้องต้น พบผู้กระผิดเพียงคนเดียว ที่เข้าข่ายกระทำความผิดในข้อหาอนาจารเด็กต่ำกว่า13 ปี  ซึ่งหลังจากนี้จะเชิญครู ผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป