กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI สนธิกำลังตำรวจ จับ 4 ผู้ต้องหา "แก๊งลักลอบขนกัญชา" อัดแท่ง น้ำหนักกว่า 40 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
ตามนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่เน้นให้หน่วยงานในกระทรวงยุติธรรม เร่งรัดปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และยึดทรัพย์ เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด อันจะทำให้การปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ที่เป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน และความมั่นคงของประเทศมีประสิทธิภาพ
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหน่วยงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ได้นำนโยบายดังกล่าวสู่การปฏิบัติ โดยมอบหมายให้หน่วยงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ประสานงานข่าวและสนธิกำลังในการป้องกันปราบปรามความผิดดังกล่าว กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที
ล่าสุด ได้รับรายงานข่าวจากกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค โดย ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 9 ว่าในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2564 จะมีการลักลอบนำกัญชาจากพื้นที่ภาคกลางสู่พื้นที่ภาคใต้ ในปริมาณมาก
นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้สั่งการให้ นายมเหสักข์ พันธ์สง่า ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการพิเศษภาค และ พ.ต.ต.พิภพ มโรหบุตร ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษภาค 9 ประสานการข่าวและสนธิกำลังกับหน่วยงานในพื้นที่ ร่วมสืบสวนจับกุม
ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 13 ตุลาคม 2564 เวลา 19.30 น.ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษภาค 9 ได้สนธิกำลังกับ พ.ต.ท.ศรัณย์วิทย์ ฐีระเวช สว.ส.รน.2 กก.7 บก.รน./หน.ชป.สืบสวน 2 บก.รน.เจ้าหน้าที่ ตชด.44 ตชด.447 บก.ปส.4 และ ศปอ.ตร ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 4 คน ที่เป็นเครือข่ายขนส่งกัญชา
โดยจับกุมได้บริเวณใกล้ถนนปุณณกัณฑ์ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมกัญชาอัดแท่ง จำนวน 5 ห่อ ห่อละประมาณ 40 กิโลกรัม น้ำหนักรวมประมาณ 200 กิโลกรัม มูลค่าเบื้องต้นประมาณ 10 ล้านบาท โทรศัพท์มือถือจำนวน 5 เครื่อง และยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่ง
จึงได้นำตัวไปสอบสวนและส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ ดำเนินคดี จากการสอบสวนเบื้องต้น เป็นการนำผ่านกัญชาจากพื้นที่ภาคกลางลงมายังภาคใต้ เพื่อส่งผ่านไปประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินการสืบสวนขยายผล ถึงเครือข่ายผู้อยู่เบื้องหลังต่อไป
กรมสอบสวนคดีพิเศษมุ่งมั่นในการปราบปรามอาชญากรรมพิเศษที่เป็นภัยต่อประชาชนและความมั่นคงของประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาลและนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้สังคมน่าอยู่ โดยหากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว สามารถแจ้งมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษผ่านทางเว็บไซต์ www.dsi.go.th หรือโทรสายด่วน DSI Call Center 1202
ข่าวที่เกี่ยวข้อง