"ปูนาพอเพียง" จุดเริ่มต้นแค่ทำกิน สู่วิสาหกิจชุมชนเงินล้าน

คำว่า พอเพียง หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่า หมายถึง การอยู่อย่างประหยัดเท่านั้น ซึ่งจริงๆแล้ว คำว่าพอเพียง มีความหมายที่กว้างขวางกว่านั้น ความพอเพียง หมายถึง อะไรก็ตามที่มากพอดีกับความต้องการ หรือ มากเท่าที่จำเป็น ไม่ฟุ่มเฟือย แต่บางอย่างถ้าอาจจะดูฟุ่มเฟือย แต่ทำให้มีความสุข และมีกำลังความสามารถที่จะทำได้โดยไม่เดือดร้อน  ก็สมควรที่จะทำ ดังนั้นในอีกนัยหนึ่ง คำว่า พอเพียง จึงหมายถึง การยืนอยู่บนขาของตนเองให้มากที่สุด ลดการพึ่งพา

 

 

 หลายสิบปีที่ผ่านมา เราเห็นเกษตรกรไทยน้อมนำแนวพระราชดำริ "เกษตรพอเพียง" ของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ การทำเกษตรในลักษณะนี้ จึงมุ่งเน้นไปที่การเริ่มจากสิ่งที่ตนเองมี ผสมผสานความรู้ ลดการพึ่งพาจากภายนอก เพื่อให้สามารถดำรงชีพได้แบบมีต้นทุนน้อยที่สุด ดังนั้นเราจึงเห็นว่า "เกษตรพอเพียง" มีความหลายหลาก แทรกซึมอยู่ในการเกษตรหลายระดับตั้งแต่ระดับรากหญ้า ไปจนถึงระดับธุรกิจการเกษตร  

 

วันนี้เราจะพาคุณผู้อ่าน ไปเที่ยวที่จังหวัดสุโขทัย ไปรู้จักกับอดีตครูช่างยนต์ ที่ตอนนี้หันมาเปิดบ้านเป็นศูนย์เรียนรู้วิถีเกษตรแนวใหม่การเพาะเลี้ยงปูนา ตามแนวพระราชดำริเกษตรพอเพียง โดยนายนราธิป ภูมิถาวร (ฟาร์มปูนาชญาดา) อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย    

 

 

นายนราธิป  ภูมิถาวร หรือครูทอม อายุ 38 ปี เจ้าของฟาร์มปูนาชญาดา หันหลังให้กับอาชีพครูสอนช่างยนต์ในวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ทดลองเพาะเลี้ยงปูนาแบบออร์แกนิกอย่างจริงจังมาตลอด 6 ปี จนสามารถขยายพันธุ์ได้ ที่นี่ก็เป็นศูนย์วิจัยพัฒนาสายพันธุ์ปูนา และศูนย์เรียนรู้การเพาะเลี้ยงปูนา 'ออร์แกนิก' (Organic)  ของกรมประมงด้วย  

 

 

นายนราธิป บอกว่า จุดเริ่มต้นของการเลี้ยงปูนาแบบออร์แกนิกน้ำใสเกิดจากความตั้งใจ อยากให้ภรรยาได้กินปูนาที่อร่อยและสะอาดที่สุด ไม่มีความรู้อะไรเลย แต่ก็ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม จนหาวิธีการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์จนสำเร็จ ขายทั้งพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ คู่ละ 80-100 บาท

 

 

นอกจากเพาะเลี้ยงขายแล้ว ก็ยังนำมาแปรรูปได้อีกมากมาย ทั้งปูดองสมุนไพร น้ำพริกปลาย่างมันปูนา น้ำพริกนรกปูนา แจ่วบองมันปูนา ซึ่งที่ผ่านมา  สสว. และสภาเกษตรกรจังหวัดสุโขทัย ช่วยสนับสนุนการพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้า ปัจจุบันมีสินค้าใหม่ๆ เช่น ซุปต้มยำก้อน ข้าวเกรียบ เฟรนช์ฟรายส์ คอร์นเฟลกส์ ปูนาสติ๊ก ส่งขายจีน เยอรมนี และจำหน่ายออนไลน์ด้วย

 

 

นายนราธิป บอกว่า มีเครือข่ายการเพาะเลี้ยงปูนา กว่า 100 รายจากทั่วประเทศ โดยจะรับซื้อคืนเพื่อนำไปแปรรูป ปูนา 1 ตัวสามารถแยกชิ้นส่วนขายได้หลากหลาย เช่น อกปู (กิโลกรัมละ 600 บาท) ก้ามปู (กิโลกรัมละ 700 บาท) มันปู (กิโลกรัมละ 1,500 บาท) ทุกชิ้นส่วนเป็นเงินหมด แม้กระทั่งปูตายก็เอามาทำน้ำหมักชีวภาพเป็นปุ๋ยได้อย่างดี ทำรายได้เฉลี่ย วันละ 10,000 บาท และเคยทำได้สูงสุด วันละ 100,000 บาท   

 

 

นายนราธิป หรือครูทอม ย้ำว่า จุดเริ่มต้นนั้น มีเป้าหมายเล็กเพียงนิดเดียวคือ ทำกินในครัวเรือน แต่เพราะการไม่หยุดนิ่งหาความรู้ พัฒนาตนเองเสมอ ทำให้ปูนาพอเพียง กลายมาเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้ครอบครัว อยู่กันอย่างไม่ลำบาก และมีความสุขได้ โดยพร้อมแบ่งปันองค์ความรู้แก่ผู้ที่สนใจ (ฟาร์มปูนาชญาดา 066-154-7775)

 

 

ข่าว / ภาพ ภูเบศวร์  ฝ้ายเทศ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุโขทัย

จิราพร ม่วงงาม เรียบเรียง