ตร.จับ "แท็กซี่มหาภัย" ขับรถตระเวน "ลักทรัพย์" พบประวัติคดีติดตัวเพียบ

9 ต.ค.2564  นายดนัย หรือนัย อายุ 39 ปี   ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม จับกุมตัวได้บริเวณหน้าทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งในตำบลบ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิดฐาน "ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ และทำให้เสียทรัพย์”

โดยเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา  นายดนัย ผู้ต้องหา ซึ่งมีอาชีพเป็นคนขับรถแท็กซี่  ได้ขับรถตระเวนไปตามถนนประชาร่วมใจ เมื่อสบโอกาสเห็นว่า บริษัทแห่งหนึ่ง ไม่มีพนักงานรักษาความปลอดภัยดูแล จึงได้ขับรถเข้าไปจอด และเข้าไปลักทรัพย์สินภายในบริษัท ของผู้เสียหาย  ก่อนจะขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวหลบหนีไป พร้อมทรัพย์สินหลายรายการ อาทิ คอมพิวเตอร์, เงินสด, พระเครื่อง และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมมูลค่าหลายแสนบาท  ซึ่งบริษัทฯผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ก่อนขออนุมัติศาลอาญามีนบุรีออกหมายจับผู้ต้องหา

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจกองปราบปราม สืบสวนพบ ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี จึงเข้าตรวจสอบ พบผู้ต้องหากำลังขับรถแท็กซี่ อยู่บริเวณหน้าทางเข้าหมู่บ้าน จึงเรียกให้หยุดรถ และทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการตรวจสอบรถแท็กซี่คันดังกล่าว พบเครื่องมือช่าง, อุปกรณ์การงัดแงะต่างๆ อยู่ภายในรถ ซึ่งน่าเชื่อว่า ก่อนถูกจับกุม ผู้ต้องหากำลังตระเวนขับรถเพื่อเตรียมที่จะก่อเหตุอีก จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ทั้งนี้ จากการสืบสวน พบว่าผู้ต้องหา จะขับรถแท็กซี่ ตระเวนรับ-ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ต่างๆ ในช่วงเวลากลางคืน เมื่อสบโอกาสก็จะย้อนกลับไปลักขโมยสิ่งของ โดยเตรียมอุปกรณ์การงัดแงะไว้ที่หลังรถ ซึ่งเมื่อได้ทรัพย์สินมาเเล้ว ก็จะนำทรัพย์สินต่างๆ ไปขายในตลาดมืด และนำเงินที่ไปซื้อยาบ้ามาเสพ โดยก่อเหตุลักษณะนี้อยู่เป็นประจำในพื้นที่มีนบุรี ปทุมธานี และนนทบุรี

นอกจากนี้ ประวัติผู้ต้องหาเคยถูกจำคุกในคดีพยายามฆ่า, ชิงทรัพย์ และครอบครองยาเสพติด มาเเล้ว รวมเวลาทั้งสิ้น ๗ ปี และเพิ่งจะพ้นโทษจากเรือนจำคลองเปรมมาเมื่อเดือน ธันวาคม 2561

ทั้งนี้ยังมีผู้เสียหายอีก 1 ราย ได้เเจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ไว้ที่ สภ.ชัยพฤกษ์ อีกหนึ่งคดี ซึ่งพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับต่อไป