ข่าว

"รอง ผบช.น." ควง รอง โฆษก ตร. ปรับยุทธวิธีรับมือ "ทะลุแก๊ส"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"รอง ผบช.น." เผย อาการ ส.ต.ต.เดชวิทย์ ดีขึ้นแล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังอาการแทรกซ้อน พร้อมระบุปรับยุทธวิธีรับมือ "ทะลุแก๊ส" จนกว่าบ้านเมืองจะสงบ

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ในฐานนะโฆษก เปิดเผยถึงสถานการณ์ 
การชุมนุมรายวันในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า จากข้อมูลด้านการข่าวทราบว่า วันนี้จะมีการชุมนุม ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 3 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 กลุ่มพลเมืองโต้กลับ จะชุมนุมที่บริเวณหน้าศาลฎีกา เริ่มชุมนุม เวลา 17.00 น. นำโดย นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ ซึ่งยังไม่ทราบจำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุม จุดประสงค์เพื่อจัดกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง ปล่อยเพื่อนเรา” เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 12 นาที โดยให้ปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวโดยกลุ่มนี้ จะไม่เคลื่อนที่ไปจุดอื่น 

จุดที่ 2 กลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ร่วมกับพนักงาน บริษัทบิลเลียน จะเดินทางมาที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เวลา 13.30 น. นำโดย น.ส.ธนพร วิจันทร์นายเซี๊ย จำปาทอง และ น.ส.ศรีไพร นนทรีย์ เพื่อนัดหมายประชุมหารือ กรณีขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาข้อพิพาท เพื่อทวงถาม และเรียกร้องเงินค่าชดเชย ของทางกลุ่มกรณีนายจ้างประกาศเลิกจ้างงานโดยไม่แจ้งล่วงหน้า คาดว่ามีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 50 คน โดยกลุ่มนี้จะไม่เคลื่อนที่ไปจุดอื่น และ จุดที่ 3 เป็นกลุ่มเยาวรุ่น "ทะลุแก๊ส" จะชุมนุมที่บริเวณแยกใต้ด่วนดินแดง เริ่มชุมนุม เวลา 17.30 น. วัตถุประสงค์ เพื่อก่อความวุ่นวายในพื้นที่ ซึ่งกลุ่มนี้อาจจะมีการก่อความไม่สงบ และเคลื่อนที่ไปยังบริเวณใกล้เคียง ซึ่งทาง บช.น. ได้จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และมอบหมายผู้รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติภายใต้กรอบของกฎหมาย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนมากที่สุด ขอให้ประชาชนไม่ออกมาบริเวณนอกเคหะสถานในบริเวณที่มีการก่อเหตุ
 

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมานั้น กรณีที่กลุ่มทะลุแก๊ส ได้มีการนัดหมายเพื่อทำการชุมนุมที่บริเวณใต้ด่วนดินแดง นั้น ตั้งแต่ เวลา 17.55 น. เจ้าหน้าที่ "ตำรวจ คฝ."ได้เข้าตรึงกำลังอยู่บริเวณซอยมิตรไมตรี 2 ซึ่งไม่พบกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ต่อมา เวลา 20.30 น. มีเสียงประทัด 1 ครั้ง บริเวณ แยกสามเหลี่ยมดินแดง จนกระทั่ง เวลา 21.00 น. บริเวณรอบแฟลตดินแดง, บริเวณซอยต้นโพธิ์ และถนนมิตรไมตรี 2 ไม่พบการรวมตัวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบแต่อย่างใด จนถึงคง เวลา 04.00 น. เจ้าหน้าที่ คฝ.ถอนกำลัง หากมีผู้ก่อความไม่สงบจะก่อเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่เตรียมกำลังในรัศมี 5-10 กม. ไว้ทั้งหมดแล้ว มีชุดสายตรวจเคลื่อนที่ดูแลความสงบเรียบร้อย เชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาคงามสงบเรียบร้อยบริเวณดังกล่าวได้อย่างแน่นอน 

ส่วนกรณี ส.ต.ต.เดชวิทย์ เลทเท็สสัน ผบ.หมู่ กองร้อยที่ 5 กก.อารักขา 1 บก.อคฝ. ได้ทำการรักษาตัวที่ รพ.ตร. โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงรับไว้ในพระพบรมราชานุเคราะห์  ซึ่งเช้าวันนี้อาการของ ส.ต.ต.เดชวิทย์ เริ่มดีขึ้นแล้วลืมตาได้ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังดูอาการทางสมองและทางเดินหายใจ หรืออาการแทรกซ้อน


ทั้งนี้ ภาพรวมตั้งแต่เดือน ก.ค. 2563 จนถึงปัจจุบัน มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 646 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นและสั่งฟ้องไปแล้ว 302 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน 344 คดี

ส่วนการออกหมายจับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.จิรสันต์ เผยว่า อยู่ในระหว่างสืบสวนสอบสวน ส่วนภาพกล้องวงจรปิดเป็นข้อมูลของทางการสืบสวนไม่สามารถเปิดเผยได้ และยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ ส่วนการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยทั้ง 73 คนนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ถูกชักชวนผ่านโซเชียลมีเดีย มีการพูดคุยถึงเรื่องใช้อาวุธปืน และระเบิดแสวงเครื่อง ซึ่งกำลังหาทางเชื่อมโยงหาเบาะแสผู้ก่อเหตุที่ยิงตำรวจ ซึ่งทุกคนถูกแจ้งข้อหาต่างกัน ส่วนกรณียิงเจ้าหน้าที่ "ตำรวจ คฝ." ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบวิถีกระสุนซุ่มยิง กรณีแนวกระสุนคาดว่ายิงลงมาจากที่สูง กรณีการตั้งใจยิงมีเจตนาฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ ยังไงเจ้าหน้าที่ก็แจ้งข้อหาเป็นพยายามฆ่าอยู่แล้ว ซึ่งการใช้อาวุธปืนนั้นอาจทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตได้ ตอนนี้ต้องขอให้ผู้เชี่ยวชาญ พฐ. ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดให้เสร็จสิ้นก่อน

ส่วนชนิดของกระสุนที่ผู้ก่อเหตุใช้นั้น พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า เบื้องต้นเศษกระสุนเป็นทองแดง ส่วนการเพิ่มอุปกรณ์นั้น ผบ.ตร. เน้นย้ำความปลอดภัยของเครื่องป้องกัน เช่น หมวกกันกระสุน หน้ากากกันกระสุน เสื้อเกราะกันกระสุน ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พยายามจัดหามาให้ผู้ใต้บังคับบัญนำมาใช้ในขณะปฏิบัติงานจริง นอกจากนี้มีการปรับยุทธวิธีรับมือกับกลุ่มทะลุแก๊ส โดยใช้งานป้องกันปราบปรามยึดพื้นที่ดูแลความปลอดภัย ป้องกันการรวมกลุ่มและซุกซ่อนอาวุธหรือสิ่งของผิดกฎหมาย ทำให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนมากยิ่งขึ้น 

ส่วนจะมีการประกาศเป็นเขตห้ามผ่านหน้าแฟลตดินแดงหรือไม่ ตอนนี้ยังสัญจรใช้ได้ตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยบริเวณดังกล่าว จนกว่าเหตุการณ์จะสงบ การเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่จะเป็นจุดที่ทำให้หนื่อยเพิ่มมากขึ้น จึงประสานงานขอกำลังพลจากหน่วยอื่นมาช่วยปฏิบัตหน้าที่ พร้อมบริหารกำลังพลไม่ให้กระทำกับการใช้ชีวิตปกติของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละนาย

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ