ข่าว

"ปอท." จับ "แฮกเกอร์"หนุ่มฉกข้อมูลส่วนบุคคล 6 แสนชื่อประกาศหน้าเว็บไซต์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจ ปอท. แกะรอย ตามจับ "แฮกเกอร์" หนุ่มอดีตพนักงานรับจ้างพัฒนาระบบ ขโมยข้อมูลส่วนบุคคลกว่า 600,000 รายชื่อ ประกาศขายบนหน้าเว็บไซต์

7 ต.ค.2564  ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. นำโดย พ.ต.ต.ชัยยุทธ เชียงสอน สว.กก.1 บก.ปอท พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าค้นห้องพักภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านเทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ พร้อมจับกุม  นายวรพล (สงวนนามสกุล)  อดีตพนักงานบริษัทพัฒนาระบบแห่งหนึ่ง  หลังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ร้องทุกข์กับทางตำรวจ บก.ปอท.เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2564 


สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2564 ทางบริษัทผู้เสียหายได้ตรวจพบว่ามีการประกาศบนเว็บไซต์เพื่อขายข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน จำนวนกว่า 600,000 ราย โดยอ้างว่าเป็นข้อมูลของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ของบริษัท จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท. ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้ดำเนินคดีแล้วและได้แจ้งฝ่ายสืบสวนทำการสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของบริษัทดังกล่าว จนพบร่องรอยพยานหลักฐานต่างๆ ทำให้ทราบถึงข้อมูลของคนร้าย และเข้าตรวจค้นพร้อมยึดของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิด และจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

 

"ปอท." จับ "แฮกเกอร์"หนุ่มฉกข้อมูลส่วนบุคคล 6 แสนชื่อประกาศหน้าเว็บไซต์

 

 

จากการตรวจค้นห้องดังกล่าวพบ นายวรพล ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นอดีตพนักงานของบริษัทที่รับจ้างพัฒนาระบบส่วนผู้ใช้งานของบริษัทผู้เสียหาย อยู่ในห้องพักดังกล่าว และได้ตรวจยึดสิ่งของที่น่าเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดได้แก่ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยี่ห้อ Apple จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง และสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย จำนวน 1 เล่ม จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้คุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้เข้าไปลักลอบขโมยข้อมูลของบริษัทดังกล่าว ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนทั่วไป จำนวนกว่า 600,000 รายชื่อ จริง จากนั้นนำข้อมูลไปขายในอินเตอร์เน็ต โดยรับชำระผ่านช่องทางสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งผู้ต้องหาได้รับประโยชน์จากการขายข้อมูลเป็นเงินจำนวนประมาณ 300,000 บาท และได้นำเงินที่ได้ไปใช้ในการเล่นการพนันออนไลน์ 

 

พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “เข้าถึง โดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้น มิได้มีไว้สำหรับตน  เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน และกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น ถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้” ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

"ปอท." จับ "แฮกเกอร์"หนุ่มฉกข้อมูลส่วนบุคคล 6 แสนชื่อประกาศหน้าเว็บไซต์

 

 

ทั้งนี้  กองบัญชาการสอบสวนกลาง และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)  แนะนำวิธีการในการป้องกันอาชญากรรมในรูปแบบดังกล่าวข้างต้น ดังนี้

1. บริษัทต่างๆ จะต้องระมัดระวังเรื่องการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล หมั่นตรวจสอบบัญชีผู้ดูแลระบบหรือช่องทางที่สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญของบริษัท และลบบัญชีของผู้ดูแลระบบหรือปิดกั้นช่องทางเข้าถึงข้อมูลที่ไม่จำเป็น เช่นกรณีพนักงานที่รับผิดชอบเปลี่ยนหน้าที่หรือลาออกจากบริษัท เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลที่สำคัญรั่วไหลไปสู่บุคคลภายนอก

2. กำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลของพนักงานแต่ละคน โดยควรให้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงเท่านั้น ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญของบริษัทได้ และกำชับให้ผู้ที่มีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลเก็บรักษาบัญชีและรหัสผ่านให้ปลอดภัย

3. การสร้างบัญชีผู้ใช้งานของเว็บไซต์ต่าง ๆ ไม่ควรตั้งรหัสผ่านที่คาดเดาได้ง่าย หรือรหัสผ่านที่เหมือนกันในหลายเว็บไซต์ เพราะหากเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่งทำข้อมูลดังกล่าวรั่วไหล ผู้ที่ได้ข้อมูลดังกล่าวไปจะไม่สามารถเข้าถึงบัญชีผู้ใช้งานของเราได้

 

 

logoline