งานรำลึก 45ปี "6 ตุลา" พิธา-ธนาธร ชี้ รัฐต้องรับฟังความเห็นต่าง

 

 

กิจกรรมงานรำลึก 45ปี "6ตุลา19" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ ในวันนี้ มีบุคคลทางการเมือง ตัวเเทนพรรคการเมืองเเละคนเดือนตุลา ร่วมวางพวงมาลา อย่างต่อเนื่อง

 

 

เช่น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนางสาวพรรณิการ์ วานิช ตัวเเทนคณะก้าวหน้า นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และตัวเเทนพรรคไทยสร้างไทย รวมถึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่ม นปช. และนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทยในฐานะคนเดือนตุลาและนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และประชาชนคนเดือนตุลาเข้าร่วมกิจกรรม

 

 

นายสุเทพ สุริยะมงคล ประธานคณะกรรมการจัดการงาน45ปี "6ตุลา2519" กล่าวเปิดกิจกรรมพร้อมขอบคุณ มธ. เพราะก่อนหน้านี้มีปัญหาจะไม่ให้จัดการภายในมหาวิทยาลัย

 

 

แต่สุดท้ายก็ขอขอบคุณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ให้ความร่วมมือเท่าที่ทำได้ ซึ่งการจัดกิจกรรม "6ตุลา" จะจัดขึ้นที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพรัจันทร์ทุกปี พร้อมกล่าวถึง เหตุการณ์ "6ตุลา" ซึ่งแม้จะผ่านมาแล้ว 45ปี ก็ยากที่จะลืมเลือนจึงได้มีกิจกรรมในวันนี้ขึ้น   เพื่อรำลึกถึงวีรชนที่ปกป้องประชาธิปไตยในช่วงนั้นเพราะเป็นสิ่งที่ทำและจารึกไว้ให้คนรุ่นหลัง ได้ศึกษาและทำงานต่อไป

 

 

 

 

 

 

โดยนายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ ว่าเหตุการณ์ "6 ตุลา" ที่วนมาทุกปีสะท้อนให้เห็นถึงอดีต จนถึงปัจจุบันที่ยังคงมีความรุนเเรงที่ดินเเดง สิ่งที่เเต่ละปีพากลับมา คือ รากเหง้าของปัญหา ใน 45 ปีที่ยังไม่มีการชำระ เป็นความรุนเเรงจากรัฐที่จัดการคนเห็นต่าง เเละวัฒนธรรมลอยนวลยังคงอยู่ ยังไม่มีผู้รับผิดต่อเหตุการณ์

 

 

ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมายังมีเยาวชนได้รับความรุนเเรงบนท้องถนน เเละทางกฎหมาย โดยเฉพาะคดี 112 กว่า 148 คน รวมถึงมีผู้ถูกดำเนินคดีอีก 2,000 คดี ซึ่งสะท้อนว่ารัฐไทยยังไม่คิดที่จะรับฟังความในการเปลี่ยนเเปลงของโลกสมัยใหม่เเละรับผิดชอบกับเหตุการณ์ไม่คิดที่จะประนีประนอม

 

 

ดังนั้น จะให้ความขัดเเย้งทางการเมืองยุติลง พรรคก้าวไกลมองว่า รัฐต้องยุติความรุนเเรงกับประชาชน เปิดพื้นที่ปลอดภัยให้คนยุคนี้ สามารถพูดความจริง
และมองว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นควรแก้ด้วยกระบวนการการเมือง และยอมรับความเห็นต่างในกระบวนการประชาธิปไตย ถ้าทำได้ผลลัพธ์ความขัดแย้งทางการเมืองจะทำให้ประเทศไทยเดินต่อไปได้

 

 

ทั้งนี้กรณีที่คณะกรรมการ 6ตุลาจะยื่นฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบกรณี 6ตุลานั้นมองว่า ถ้าทำให้เกิดความรับผิดชอบต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกียรติกับความสูญเสีย พรรคก้าวไกลก็พร้อมใช้เวทีรัฐสภาในการผลักดันให้เกิดการรับผิดกับประชาชน

 

 

ด้านธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวด้วยว่า วันนี้มารำลึกอดีตเพื่อส่งเสียงว่าอยากเห็นอนาคตแบบไหน สังคมอยากเห็นอนาคตที่โอบอ้อมอารีและอดทนอดกลั้นต่อความเห็นที่แตกต่าง และนี่คือสิทธิเสรีภาพที่ต้องการปกป้อง และมาเพื่อป่าวประกาศสังคมไทยที่อยากเห็นและสร้างไปด้วยกัน

 

 

 

 

ส่วนนางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ยังกล่าวอีกว่า ขอฝากถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า 45ปีผ่านไป ก็ยังทำแบบเดิมกับการกระทำของผู้เห็นต่าง ประชาชนต่อสู้มา45ปีและจะต่อสู้ต่อไป เพราะอนาคตของประชาชนอยู่ในเรือนจำ

 

 

ขณะที่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า รัฐบาลจะต้องยุติการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม เพราะเป็นการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ และดำเนินคดีกับประชาชน

 

 

ส่วนคดีความที่มีอยู่แล้วจะต้องประชาชนและต้องใช้ระบบการเมืองในการแก้ปัญหา ไม่ใช่เรื่องอาชญากรรมที่จบกันที่ศาลอย่างเดียว หากดำเนินแบบนี้อยู่ หากยังมองเห็นเยาวชนเป็นภัยความมั่นคงทางสังคม สังคมก็จะเดินต่อไม่ได้ และต้องเปิดพื้นที่ทางการเมืองเพื่อหาจุดลงตัว และแนวทางอาจจะต้องไปถึงการนิรโทษกรรมหรือคดีโมฆะ