"ผบ.ทอ." ตั้งเป้าเป็นกองทัพอากาศคุณภาพ

 

 

พลอากาศเอก นภาเดช  ธูปะเตมีย์  "ผู้บัญชาการทหารอากาศ" แถลงนโยบายกองทัพหลังเข้ารับตำแหน่ง ผ่านระบบออนไลน์จากห้องประชุมกองทัพอากาศ เพื่อเป็นการสืบสานเจตนารมณ์ไปยังข้าราชการทหารอากาศและกำลังพล รวมกว่า 47,000 นายทั่วประเทศ ให้รับทราบและตระหนักถึงหน้าที่สำคัญในการปฏิบัติราชการภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะสร้างจิตสำนึกต่อด้วยคติประจำใจ code of conduct จงรักภักดี สำนึกหน้าที่ สามัคคี เสียสละ

 

 

โดยสาระสำคัญของการแถลงนโยบายครั้งนี้คือการมุ่งสู่การเป็นกองทัพอากาศคุณภาพ ภายใต้การขับเคลื่อนนโยบายที่สำคัญ 6 ด้าน ประกอบด้วย

 

 

1.คนคุณภาพ  คือ การรับคนเข้ามา การพัฒนาคนให้เป็นตามต้องการ โยกย้ายหมุนเวียนการทำงาน ประเมินผลการทำงานและการปฏิบัติตัว ให้กรมกำลังพลทบทวนการรับคนให้เหมาะสมหลักเกณฑ์ปัจจุบัน รวมถึงวิธีการประเมินใหม่ ที่เป็นอยู่ตอนนี้ดูจะใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้

 

 

2.ข้อมูลและการข่าวที่มีคุณภาพ ซึ่งกองทัพมีเครื่องมือในการหาข่าว สังเคราะห์ข่าวมากมาย อยากให้ใช้ประโยชน์สูงสุดเพื่องานด้านยุทธการและการรบ ข่าวที่สร้างการรับรู้สถานการณ์ และการข่าวเพื่อช่วยเหลือประชาชน

 

 

3.กำลังรบที่มีคุณภาพ ทั้งการ Training ศิษย์การบิน / Fighter Lead-In , การฝึกร่วม/ผสม , เครื่องบิน อาวุธ ยุทโธปกรณ์ , ระบบป้องกันทางอากาศ และระบบการใช้กำลัง

 

 

4.ระบบส่งกำลังบำรุงที่ลื่นไหล มุ่งสู่เป้าหมายด้วยความลื่นไหล ลดข้อจำกัด ใช้ทุกองคาพยพให้เป็นประโยชน์ กรมส่งกำลังบำรุงทหารอากาศ กรมช่างอากาศ และบริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด

 

 

5.เชื่อมโยงและช่วยเหลือประชาชน โดยส่วนงานกิจการพลเรือน ต้องเตรียมการล่วงหน้า ตอบสนองให้ทันเหตุการณ์ ใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ มีความคิดริเริ่มด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการช่วยเหลือประชาชน

 

 

6.ข้าราชการมีความสุขด้วยระบบสวัสดิการที่มีคุณภาพ 
 

 

 

 

 

นอกจากนี้ยังตั้งคณะทำงานขึ้นมาอีก 14 ชุด โดยมี 1 คณะ ที่ให้ทหารชั้นประทวน มีส่วนร่วมรับผิดชอบด้วย คือ คณะทำงานเสนอแนะการทำงานและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับนายทหารประทวน

 

 

"ผู้บัญชาการทหารอากาศ" ยังยืนยันถึงความสำคัญที่จะสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น ตามคำขวัญประจำหน่วยที่ว่า ความสามัคคีกลมเกลียว เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน คือสิ่งสำคัญที่สุดของหน่วยทหาร เพื่อนำ กองทัพอากาศ สู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของการปลูกฝังกำลังพลให้จงรักภักดี สำนึกในหน้าที่ของการเป็นทหารอากาศ สร้างความสามัคคี ให้บังเกิดความรัก และความผูกพันในหมู่ข้าราชการทุกระดับชั้น พร้อมปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ ทุ่มเทเพื่อประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน นำไปสู่การเป็นกองทัพอากาศคุณภาพอย่างแท้จริง และยั่งยืนสืบไป

 

 

 

 

 

 

 

จากนั้น "ผู้บัญชาการทหารอากาศ" ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า สิ่งที่เน้นย้ำในการให้นโยบายคือเรื่องคุณภาพ และความรักใคร่กลมเกลียว เพราะเชื่อว่าจะเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะทำให้เวลา 1 ปี ในตำแหน่งประสบความสำเร็จ 

 

 

เมื่อถามว่าในยุคที่ พลอากาศเอก ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ "ผบ.ทอ." คนที่10 ซึ่งเป็นบิดา เคยซื้อเครื่องบิน F-16 ปัจจุบัน "ผบ.ทอ." คนที่ 28 คิดจะดำเนินการ อย่างไร ซึ่งพลอากาศเอก นภาเดช กล่าวว่า ในยุคปัจจุบันเครื่องที่เหมาะสม คือ F-35 โดยเครื่องที่กองทัพอากาศมีอยู่ขณะนี้ ยังทันสมัย แต่อีกไม่นานก็จะล้าสมัย จึงสมควรที่จะมีการตระเตรียมไว้ ซึ่งยุคของตนอาจเป็นยุคของการคิด แต่ยังไม่ได้แอคชั่น(ซื้อ) และเมื่อถึงยุคที่มีความพร้อม ทั้งงบประมาณและประชาชนสนับสนุน ก็น่าจะจัดหาได้ 

 

 

เรามี C-130 มี F-16 ที่ใช้จนคุ้มสุดคุ้ม ดังนั้นถ้าถึงเวลาที่เหมาะสม และประชาชนสนับสนุน เราก็น่าจะดำเนินการได้ เพื่อให้มีความพร้อม เพราะกองทัพอากาศจะแพ้ไม่ได้ ถ้าเสียงที่คำรามอยู่เหนือน่านฟ้า เป็นเครื่องของชาติอื่น ๆ ก็ไม่ต้องคิดว่ากำลังรบอื่น หรือบ้านเมืองจะแหลกราญ เพียงใด