ตม.ประจวบฯ ลุยจับต่างด้าวเถื่อน ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ ถ ต.ค.64 พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พุทธิพงษ์ ผกก.ตม.จว.ประจวบคีรีขันธ์ แถลงผลการจับกุมกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยคดีแรd จับกุมกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ที่แอบลักลอบเดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาติข้ามแดนมายังฝั่งไทย บริเวณช่องเขาหลัก บ้านเนินแก้ว ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จว.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 34 คน แบ่งเป็นชาย 9 คน หญิง 25 คน ทั้งหมดให้การว่า จ่ายเงินให้นายหน้าฝั่งประเทศเมียนมาคนละ 18,000 บาท เพื่อแลกกับการลักลอบเข้าประเทศไทย แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน

คดีที่สอง จับกุมกลุ่มขบวนการขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ที่แอบลักลอบเดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาติข้ามแดนมายังฝั่งไทย บริเวณช่องถ้ำหมี หมู่ 6 ต.ห้วยทราย อ.เมือง โดยจับกุมนายพีระพงษ์ อายุ 38 ปี พร้อมแรงงานชาวเมียนมารวม 11 คน แบ่งเป็น หญิง 8 คน และชาย 3 คน นายพีระพงษ์ให้การรับสารภาพว่า ได้ค่าตอบแทนในการขนแรงงานต่างด้าว ในราคาหัวละ 500 บาท จากนั้นจึงนำไปส่งบริเวณจุดนัดหมายริมถนนเพชรเกษม หน้าโรงเรียนห้วยยางวิทยา ต.ห้วยยาง อ้างว่าจะส่งให้นายหน้า นำไปทำงานที่โรงงานปลากระป๋อง จ.สมุทรสาคร แต่กลับมาถูกจับกุมเสียก่อน

พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายและมาตรการในการป้องกันปราบปรามของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.และ พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา ผบก.ตม.3 ที่ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด ดำเนินการสืบสวนปราบปราม และเข้มงวดกวดขัน และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามากระทำผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง  รวมถึงการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายถือเป็นจุดเริ่มต้นของความเสี่ยง ที่อาจนำเชื้อโควิดเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทยได้ ซึ่งการตรวจจับกุมอย่างเข้มข้นของเจ้าหน้าที่ เป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดได้ รวมถึงป้องกันปัญหาด้านความมั่นคงและปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ พร้อมทั้งได้กำชับให้ดำเนินการสืบสวน จับกุมอย่างต่อเนื่องเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป