ข่าว

ส่องกล้อง เพื่อนลุงตู่ ขยับรับ ปลัดฉิ่ง "ตั้งพรรคการเมือง"ใหม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทำความรู้จัก "เพื่อนลุงตู่" พ.อ.สุชาติ   จันทรโชติกุล ออกมาส่งสัญญาณถึงกลุ่มส.ส.ใต้พรรคพลังประชารัฐ ภายหลังกระแสแรงรอต้อนรับ ปลัดฉิ่ง จัด"ตั้งพรรคการเมือง"ใหม่

ขยับออกมายืนหน้าฉากกันอย่างต่อเนื่อง เมื่อล่าสุด "พ.อ.สุชาติ   จันทรโชติกุล"  อดีตประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความลงเพจส่วนตน เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ในทำนองสนับสนุนการ"ตั้งรรคการเมือง"ใหม่ของ"ปลัดฉิ่ง" ฉัตรชัย พรหมเลิศ  อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย 

 

พ.อ.สุชาติ โพสต์ข้อความไว้ดังนี้ "ต้นเดือนหน้า น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในเรื่องพรรคใหม่ที่สื่อเสนอกันมาตลอดว่ามี ปลัดฉิ่ง( นายฉัตรชัย  พรหมเลิศ ) ผลักดัน ส่วนตัวผมเองไม่ได้ช่วยงาน พรรคพลังประชารัฐ แน่นอนในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรุ่งนี้ จะเรียกทีมงานหารือวางแผนการทำงานในพื้นที่ 

 

ส่วนส.ส.พปชร.ที่ได้รับเลือกมา 13 คนนั้น เพราะกระแสความนิยมในตัวของนายกฯ ผมยังมั่นใจว่าในภาคใต้ความนิยมในตัวนายกฯไม่ได้ลดลง" 

 

ส่องกล้อง เพื่อนลุงตู่ ขยับรับ ปลัดฉิ่ง "ตั้งพรรคการเมือง"ใหม่

 

การออกโพสต์ข้อความ ของ "พ.อ.สุชาติ   จันทรโชติกุล" ทำให้คอการเมืองออกมาตีความต่างต่างนานา แต่มีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันว่า กำลังมีความพยายามย้ายบ้านเข้าสังกัดพรรคการเมืองที่กำลังจัดตั้งขึ้นใหม่ โดยมี ฉัตรชัย พรหมเลิศ ที่กำลังกลายเป็นอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นแกนหลักสำคัญ   

ฉัตรชัย พรหมเลิศ  อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย แกนนำสำคัญตั้งพรรคการเมืองใหม่

 

ความพยายามในการก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยมี  ฉัตรชัย พรหมเลิศ เป็นแกนหลักสำคัญ มีการกล่าวถึงบนสนามทางการเมืองมานานหลายเดือนแล้ว ถึงกับรับรู้การต่อสายสร้างสัมพันธ์กับกลุ่มทุน และคัดเลือกชื่อพรรคการเมือง บ้างว่าได้ข้อสรุปเบื้องต้นให้ใช้ชื่อ "พรรคเศรษฐกิจไทย" 

 

กอปรกับ การออกมาโพสต์ข้อความของ "พ.อ.สุชาติ" ในวันที่ 29 กันยายน ก่อนวันที่ "ฉัตรชัย พรหมเลิศ" หรือ "ปลัดฉิ่ง" จะเกษียณอายุราชการในวันที่  30 กันยายน ย่อมมีนัยยะสำคัญทางการเมืองชนิดที่ทุกคนต้องจับตามอง 

 

"พ.อ.สุชาติ   จันทรโชติกุล" อดีตประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้พรรคพลังประชารัฐ

 

ที่สำคัญ ชื่อของ "พ.อ.สุชาติ" นั้นไม่เพียงแต่เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐภาคใต้เท่านั้น  แต่เจาะลึกลงไปกว่านั้นพ.อ.สุชาติ หรือที่ผู้คนในภาคใต้มักเรียกขานอย่างสนิทใจ ว่า "ผู้การชาติ"  เขาเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 12 รุ่นเดียวกับ คนที่ทำหน้าที่ผู้นำประเทศในขณะนี้ นั่นคือ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม  

  

 

 

"ผู้การชาติ" เคยรับราชการทหารอยู่ที่สงขลาตั้งแต่ปี  2520 เคยดำรงตำแหน่งเป็น ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 5  และ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 43 จังหวัดนราธิวาส ในช่วงปี พ.ศ. 2533 ถึง พ.ศ. 2535  ลาออกจากราชการปีเดียวกัน 

 

เรียกว่าอยู่ในพื้นที่มายาวนาน จึงลงสมัคร ส.ส. และได้รับเลือกตั้ง เป็นส.ส. สงขลา ในนามพรรคความหวังใหม่  หลัง คสช.เข้ายึดอำนาจ เขายังได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ   ระหว่างอยู่ในสภาก็ผลักดันการตั้งพรรคพลังประชารัฐ และมาเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ  พร้อมกับสร้างผลงาน สงขลา ได้ส.ส.พลังประชารัฐ 4 คนด้วยกัน 

 

เมื่อปลายปี 63  ในการเลือกตั้งนายกอบจ. สงขลา  ผู้การชาติ ประกาศลงชิงชัยในนามทีมสงขลาประชารัฐ แต่ก็พ่ายให้กับว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ์ ทีมพรรคประชาธิปัตย์  ซึ่งเป็นสนามเลือกตั้งที่ผลการแข่งขันออกมาสูสี 

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี บุคคลที่ ผู้การชาติเอ่ยถึงเสมอบนเวทีปราศรัยว่าเขาเป็นเพื่อนนายกฯ

 

อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่เขาขึ้นเวทีปราศรัย สูตรสำเร็จในการขอคะแนนประชาชน นั่นคือ การเอ่ยชื่อ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี ทำนองว่า  " ตนเองเป็นเพื่อนกับพล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่เตรียมทหารรุ่นที่ 12  กินนอนที่เดียวกัน ดังนั้นพื้นที่ภาคใต้ พล.อ.ประยุทธ์ มีพ.อ.สุชาติ เป็นเพื่อนเพียงคนเดียว "

 

จึงไม่แปลกที่เขาจะได้รับเลือกจากคสช.ให้มาเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. และมาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐก่อนได้รับมอบหมายให้มาเป็นผู้อำนวยการพรรคพปชร.โซนภาคใต้ในที่สุด 


ทว่า  การออกมาเปิดตัวของ"ผู้การชาติ"  -  "ปลัดฉิ่ง"  หรือรวมไปถึง "นายพีระพันธุ์  สาลีรัฐวิภาค"  ที่ปรึกษานายกฯ ให้ไปนั่งที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  

 

ดูเป็นช่วงเดียวที่พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่พบปะประชาชน

 

เหมือนสัญญาณออกมาจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ใกล้เข้าสู่ฤดูกาลเตรียมตัวตุนคะแนน สร้างฐานเสียง เพื่อรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง  

 

และอาจเป็นภาพให้ชวนคิดกันต่อไปว่า ทั้งการตั้งพรรคใหม่หนุนพล.อ.ประยุทธ์  รวมถึงการต่อสายเชื่อมต่อพลังประชารัฐ

 

จะเป็นกลวิธี แยกกันเดินร่วมกันตี หรือไม่ 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ