ข่าว

"สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า" ทรงแนะนำนักเรียน ปลูกพืชแบบผสม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า" ทรงติดตามงาน รร.ตชด.บุญธรรม–บุญพริ้ง จ.อุตรดิตถ์ และทรงแนะนำนักเรียน ปลูกพืชแบบผสม ผสานหลากหลาย มีงานเสริมรายได้ในช่วงการระบาดของโควิด-19

 

 

"สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า" กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ ห้องประชุม วังสระปทุม ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนตามพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ออนไลน์) เมื่อวันพุธที่ 25 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา

 

 

โดยมี นายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการ กปร. นายลลิต ถนอมสิงห์ รองเลขาธิการ กปร. และเจ้าหน้าที่สำนักงาน กปร. เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ อาคารสำนักงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กรุงเทพฯ 

 

 

โดยทรงติดตามการดำเนินงานของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบุญธรรม–บุญพริ้ง ตำบลบ่อเบี้ย อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมกับทอดพระเนตรกิจกรรมการเรียน การสอนของโรงเรียน

 

 

ประกอบด้วย การสาธิตการสอนวิชาภาษาไทย กิจกรรมโครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยตามพระราชดำริ กิจกรรมห้องสมุด สหกรณ์นักเรียน ห้องพยาบาล การประกอบเลี้ยงอาหารกลางวัน และอาหารเสริมนม ผลิตภัณฑ์ชุมชน การอนุรักษ์พันธุกรรมพืช

 

 

การงานอาชีพนักเรียน ได้แก่ การตัดผมชาย การผลิตหน้ากากผ้า และการผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ กิจกรรมการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ได้แก่ การปลูกพืชผักและไม้ผล การปศุสัตว์ และการประมง  

 

 

โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาท เรื่องการประกอบอาชีพ ในช่วงเหตุการณ์การระบาดของโควิด-19 ทรงแนะนำให้ปลูกพืชแบบผสมผสานหลากหลาย และให้มีงานที่เสริมรายได้ เช่น การแปรรูป การทำหัตถกรรมต่าง ๆ

 

 

ส่วนเรื่องการเรียนการสอนให้เพิ่มการอ่านการเขียนและให้ครูไปตรวจเยี่ยม เรื่องสุขภาพอนามัยเป็นเรื่องที่สำคัญให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือให้สะอาด เรื่องห้องสมุดภายในโรงเรียนให้ชาวบ้านหรือผู้ที่สนใจได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ ได้ด้วย 

 

 

"สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า" ทรงแนะนำนักเรียน ปลูกพืชแบบผสม

 

 

 

 

 

"สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า" ทรงแนะนำนักเรียน ปลูกพืชแบบผสม

 

 

สำหรับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบุญธรรม-บุญพริ้ง เป็นอีกหนึ่งโรงเรียนที่มีการจัดทำโครงการเศรษฐกิจพอเพียง และได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตามแผนพัฒนาเด็กในถิ่นทุรกันดาร ที่มุ่งให้โรงเรียนเป็นศูนย์เรียนรู้ให้แก่ชุมชน มีการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ชุมชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขึ้น

 

 

"สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า" ทรงแนะนำนักเรียน ปลูกพืชแบบผสม

 

 

และจัดกิจกรรมการสอนเด็กในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อนำมาปฏิบัติใช้ในการดำเนินชีวิต โดยจัดรูปแบบเป็นฐานเรียนรู้ 11 ฐานเรียนรู้

 

 

"สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า" ทรงแนะนำนักเรียน ปลูกพืชแบบผสม

 

 

เช่น ฐานเรียนรู้การปลูกผักปลอดสาร ฐานเรียนรู้การเลี้ยงไก่ไข่ ฐานเรียนรู้โครงการส่งเสริมสหกรณ์ ฐานเรียนรู้การผลิตและใช้น้ำหมักชีวภาพ ฐานเรียนรู้การผลิตและใช้ปุ๋ยหมัก ฐานเรียนรู้การขยายพันธุ์และปลูกหญ้าแฝก ฐานเรียนรู้การปลูกไม้ผล ฐานเรียนรู้การปลูกสมุนไพร ฐานเรียนรู้การเลี้ยงปลาดุก ฐานเรียนรู้การเลี้ยงกบ ฐานเรียนรู้การเพาะเห็ดนางฟ้า 

 

 

"สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า" ทรงแนะนำนักเรียน ปลูกพืชแบบผสม

 

 

สำหรับการดำเนินงานยึดภูมิสังคมและสภาพแวดล้อมมาเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินงานเช่น การประกอบอาชีพตามสภาพแวดล้อม ลดการพึ่งพาทรัพยากรจากภายนอก ด้วยการผลิตปุ๋ยหมักจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อใช้เอง นำผลผลิตที่ได้จากกิจกรรมฐานการเรียนรู้มาประกอบอาหารเลี้ยงเด็กนักเรียนในโครงการอาหารกลางวัน ซึ่งพบว่ามีผลผลิตเพียงพอสำหรับการบริโภคของเด็กนักเรียนตลอดมา

 

 

"สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า" ทรงแนะนำนักเรียน ปลูกพืชแบบผสม
 

 

 

ดาบตำรวจหญิง นัทชนันท์ พลอาจ  ครูผู้รับผิดชอบโครงการส่งเสริมสหกรณ์ในโรงเรียน ตชด. บุญธรรม-บุญพริ้ง  เผยว่าทางโรงเรียนได้ดำเนินกิจกรรมใน 3 กิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความรู้พื้นฐานให้แก่เด็กนักเรียน

 

 

ประกอบด้วย กิจกรรมออมทรัพย์ กิจกรรมร้านค้า และกิจกรรมการเกษตร โดยให้เด็กนำผลผลิตทางการเกษตรที่ได้เรียนรู้จากโรงเรียน แล้วนำไปปฎิบัติใช้ที่บ้าน นำผลผลิตมาจำหน่ายให้แก่สหกรณ์นักเรียนโดยสหกรณ์ฯ จะนำสินค้าเหล่านั้นไปจำหน่ายแก่ผู้ปกครองเด็กและนำไปใช้เป็นวัตถุดิบเพื่อประกอบอาหารกลางวันให้แก่เด็กนักเรียนในโรงเรียน  ซึ่งรายได้ส่วนนี้จะมอบให้แก่เด็กนักเรียนตามระบบสหกรณ์เด็กนักเรียน ต่อไป

 

 

เด็กนักเรียนที่นี่จะช่วยผู้ปกครองในการประกอบอาชีพ มีผลผลิตอะไรที่บ้านก็จะนำมาขายให้แก่สหกรณ์นักเรียน เมื่อได้เงินก็จะเอามาออมกับสหกรณ์  เด็กมีวินัยในเรื่องการออมมาก บางรายพ่อแม่ให้เงินมาซื้อขนมที่โรงเรียนก็จะแบ่งออมส่วนหนึ่ง

 

 

เนื่องจากโรงเรียนจะเน้นการเรียนการสอนเพื่อให้เด็กนักเรียนได้ฝึกและลงมือปฏิบัติจริงเมื่อจบการศึกษาจากโรงเรียนไปแล้ว นอกจากจะมีความรู้ทางด้านวิชาการแล้วก็จะยังมีความรู้ด้านการประกอบอาชีพเป็นพื้นฐานติดตัวออกไปด้วยโดยเฉพาะเรื่องการประกอบอาชีพด้านการเกษตร การขาย และการออม ดาบตำรวจหญิง นัทชนันท์ พลอาจ  กล่าว

 

 

ทางด้านเด็กหญิง พรพรรณ  วุฒิสูง สมาชิกสหกรณ์นักเรียนกล่าวว่า สหกรณ์มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น การทำบัญชีครัวเรือน บัญชีรายรับรายจ่าย ทำให้นักเรียนรู้จักรายรับรายจ่ายของตัวเองและในครอบครัว  
 

 

ที่โรงเรียนมีกิจกรรมการออมหน้าเสาธงทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ส่วนผักที่ปลูกที่บ้านจะเก็บมาฝากขายในสหกรณ์โรงเรียนเมื่อสหกรณ์ขายได้จะมอบเงินให้แก่เด็กนักเรียนเอาไปซื้อขนมกินไม่ต้องขอพ่อแม่”  เด็กหญิง พรพรรณ  วุฒิสูง กล่าว 
 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ