ข่าว

วิลาศ-วัชระ ยื่นตรวจสอบ "ไม้-หิน" ใช้ก่อสร้างรัฐสภาใหม่ตรงสเป๊กหรือไม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วิลาศ-วัชระ ยื่นพรพิศตรวจสอบ "ไม้-หิน" ที่ใช้ก่อสร้างอาคารรัฐสภาตรงสเป๊กหรือไม่ หลังพบข้อพิรุธหลายเรื่องส่อทุจริตมหาศาล

 

 

17 ก.ย.64 ที่อาคารรัฐสภา นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ และนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือผ่านเจ้าหน้าที่งานสารบรรณถึงนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบ"ไม้ปูพื้น"โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่

 

 

เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการ"ปูพื้นไม้"ว่า เป็น"ไม้ตะเคียนทอง"ทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในสัญญาจริงหรือไม่หรือเป็นไม้ตะเคียนทองผสมไม้ชนิดอื่นหรือไม่ ไม้มีขนาดความกว้างและความหนาถูก
ต้องตามแบบหรือไม่

 

 

ที่สำคัญประเทศไทยประกาศปิดป่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ไม่มีโครงการปลูกป่าไม้ตะเคียนทอง ฉะนั้น"ไม้ตะเคียนทอง"ที่ใช้ในโครงการน่าจะเป็นไม้ที่เหลือจากปีพ.ศ. 2532 มีไม้ใหม่น้อยมาก หรืออาจนำเข้าจากต่างประเทศ จึงขอให้ตรวจสอบให้ชัดเจนถ้าเป็นไม้นำเข้าขอให้ตรวจสอบว่านำเข้าจากประเทศใดและขอใบกำกับภาษีว่ามีการนำเข้าจริงเป็น"ไม้ตะเคียนทอง"จริง

 

 

แต่จากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญเรื่องไม้ทราบว่า"ไม้ตะเคียนทอง"มีอยู่ในประเทศกัมพูชา ลาวและเมียนมา ประเทศอื่นอาจมีแต่น้อยมาก

 

 

 

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง

 

 

 

 

 

 

 

ขณะเดียวกันนายวิลาศยังยื่นหนังสือถึงเลขาธิการสภาฯอีก 1 ฉบับให้ตรวจสอบหินทราโวทีนนอกจริงหรือไม่ โดยสามารถตรวจจากใบกำกับภาษีการนำเข้าสินค้าจากกรมศุลกากร

 

ทั้งนี้เพราะจากการเอา"เศษหิน"ที่บริเวณก่อสร้างให้นักธรณีดู มีข้อสงสัยว่าอาจเป็นหินอ่อนสุโขทัย แต่มีบางคนบอกว่าเป็นหินแกรนิตสีชมพูซึ่งพบที่อ.หนองบัวจ.นครสวรรค์

 

 

จึงขอให้นำนักธรณีวิทยามาตรวจสอบข้อเท็จจริง และตามแบบในสัญญา"หินทราโวทีนนอก"มีขนาด 50 x 100 ซม. หนา 25 ม.ม. เห็นว่าการเปลี่ยนแบบโดยลดความหนาลงเหลือ หนา 20 ม.ม. จะทำให้การรับน้ำหนักและความคงทนลดลงมาก เพราะมีขนาดใหญ่พิเศษ

 

 

และหากมีการชำรุดหรือแตกในอนาคตจะหาวัสดุมาทดแทนยากลำบาก

 

 

จึงขอทราบว่ามีการแก้ไขสัญญาเรื่องความหนาของ"หิน"แล้วหรือไม่ เพราะมีการก่อสร้างแล้วเสร็จไปหลายจุดแล้ว

 

 

สอบถามนักวิชาการ กรมทรัพยากรธรณีให้ข้อมูลว่า"หิน"ความหนา 20 ม.ม. และ 25 ม.ม. ราคาต่างกันเกือบเท่าตัว จึงขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย ทั้งนี้เพราะชนิดความหนา 25 ม.ม. เป็นความหนาพิเศษ ราคาจึงสูง และถ้ามีการแก้ไขสัญญาจริง มีคำถามว่าเป็นประโยชน์อะไรกับประเทศหรือส่วนรวม มีการทำผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร

 

logoline