ข่าว

อือฮาสรีระ "หลวงปู่วิลาศ" ถูกไฟเผาไม่ไหม้เชื่อหลวงปู่มาให้โชคลาภ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไฟไหม้ศาลาเก็บสรีระ "หลวงปู่วิลาศ" อดีตเจ้าคณะอำเภอ โลงเสียหายแต่ร่างไม่ระคายเคืองแม้แต่ปลายจีวรยังไม่ไหม้

 เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลพุทไธสง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยชาวบ้านและญาติโยม ได้ช่วยกันเก็บข้าวของเครื่องใช้ พระพุทธรูป และทำความสะอาด บริเวณศาลาเอนกประสงค์ภายในวัดโพนทอง  ต.พุทไธสง หลังจากถูกไฟไหม้เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา วันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมาทำให้โครงหลังคาฝ้าเพดาน  ข้าวของเครื่องใช้บางส่วน และโลงเย็นสำหรับบรรจุสรีระสังขาร พระครูวิลาศธรรมคุณ หรือ หลวงปู่วิลาศ อดีตเจ้าคณะอำเภอพุทไธสง ได้รับความเสียหาย แต่ที่สร้างความฮือฮาและชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ คือ สรีระสังขารของพระครูวิลาศธรรมคุณ ที่บรรจุในโลงเย็นที่ถูกไฟไหม้กลับไม่เป็นอะไร  แม้แต่จีวรที่ห่มร่างของหลวงปู่ก็ไม่มีรอยถูกไฟไหม้แต่อย่างใด  ซึ่งเบื้องต้นทางวัดได้ทำการเคลื่อนย้ายสรีระสังขารของหลวงปู่วิลาศ ไปไว้ที่ศาลารับรองภายในวัดก่อนชั่วคราว

อือฮาสรีระ "หลวงปู่วิลาศ" ถูกไฟเผาไม่ไหม้เชื่อหลวงปู่มาให้โชคลาภ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ทั้งนี้ยังมีเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจากคำบอกเล่าของพระครูประดิษฐ์ เจ้าอาวาสวัดเทพประดิษฐ์ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ที่ได้เดินทางมาเคารพศพ และได้ไปถ่ายภาพโลงเย็นหลวงปู่ที่ถูกเคลื่อนย้ายมาไว้ที่ศาลารับรอง โดยขณะที่ใช้โทรศัพท์มือถือไปถ่ายไม่ได้ขออนุญาตก่อน ปรากฎว่าถ่ายยังไงก็ถ่ายไม่ติด แต่พอพระครูกัลยากิจวิธาณ รักษาการเจ้าอาวาสวัดโพนทอง บอกให้พระครูประดิษฐ์ ขออนุญาตหลวงปู่ก่อน ซึ่งพระครูประดิษฐ์ก็ได้กราบขออนุญาตตามที่รักษาการณ์เจ้าอาวาสบอก จากนั้นได้ลองถ่ายภาพอีกครั้งก็ถ่ายติดปกติ  ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ 

 

นายสุนันท์ พวงโต ไวยาวัจกรวัดโพนทอง บอกว่า พระครูวิลาศธรรมคุณ หรือหลวงปู่วิลาส  อดีตเจ้าคณะอำเภอได้มรณภาพเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2564  ที่ผ่านมา ซึ่งดำริของหลวงปู่ก็ได้ทำเรื่องบริจาคร่างกายให้กับ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ไว้เมื่อมรณภาพทางวัดก็ได้แจ้งไปทาง รพ.  แต่ทาง รพ.แจ้งกลับมาว่าเนื่องจากสถานการณ์โควิดขอนแก่นเป็นพื้นที่สีแดง จึงไม่สามารถเดินทางมารับร่างหลวงปู่ได้  จากนั้นคณะสงฆ์และกรรมการวัดจึงได้หารือร่วมกันและมีมติว่าจะประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่วันที่ 11 ธ.ค.2564  ดังนั้นทางวัดจึงได้นำร่างหลวงปู่บรรจุในโลงเย็นเก็บไว้ที่ศาลาเอนกประสงค์ เพื่อให้ญาติโยมศิษย์ยานุศิษย์มากราบไหว้

 

อือฮาสรีระ "หลวงปู่วิลาศ" ถูกไฟเผาไม่ไหม้เชื่อหลวงปู่มาให้โชคลาภ

แต่เมื่อช่วงประมาณ 4 ทุ่มคืนที่ผ่านมา จู่ๆ ก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บริเวณโลงเย็นซึ่งมีอยู่ 2 โลง เพื่อไว้สลับสับเปลี่ยนจัดเก็บร่างหลวงปู่ เพื่อไม่ให้คอมโลงเย็นทำงานหนัก จากนั้นก็เกิดไฟลุกลามไหม้โครงหลังคา ฝ้าเพดาน  และโลงเย็นทั้ง 2 หลังได้รับความเสียหาย แต่สรีระสังขารของหลวงปู่ที่อยู่ในโลงเย็นกลับไม่โดนไฟไหม้แม้แต่จีวรยังอยู่ปกติ  ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสิ่งอัศจรรย์จึงได้พากันมากราบไหว้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าน่าจะเป็นไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งทางคณะสงฆ์ และกรรมการวัดก็มีมติจะเลื่อนการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพเป็นภายในเดือน ก.ย.นี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการอะไรเสร็จเรียบร้อย จากเดิมมีกำหนดพระราชทานเพลิง 11 ธ.ค.2564  ก็ขอประชาสัมพันธ์ให้ญาติโยมและศิษยานุศิษย์ได้ทราบโดยทั่วกันด้วย

ส่วนศาลาที่ถูกเพลิงไหม้ในครั้งนี้แม้จะไม่เสียหายทั้งหมด แต่ก็คาดว่าโครงการคงใช้การไม่ได้แล้ว เพราะเมื่อปี 2555 ก็เคยถูกไฟไหม้มาแล้วครั้งหนึ่ง ทางกรรมวัดจึงเห็นว่าควรจะรื้อสร้างใหม่เพื่อความปลอดภัยของทั้งพระสงฆ์ และญาติโยม  เนื่องจากศาลาอเนกประสงค์ดังกล่าวใช้ประกอบพิธีทางศาสนาต่างๆ ดังนั้นหากใครอยากจะร่วมทำบุญสร้างศาลาก็สามารถติดต่อได้ที่วัดโพนทอง 

 

ด้าน ดร.อร่ามศรี จงปัตนา รองประธานกรรมการวัด บอกว่า  ทั้งชาวบ้านและญาติโยมที่ทราบข่าวต่างก็รู้สึกตกใจและเสียใจ เพราะหลวงปู่วิลาศธรรมคุณเหมือนเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทไธสง ส่วนที่สรีระของหลวงปู่ไม่ถูกไหม้นั้นก็เชื่อว่าน่าจะเป็นบุญบารมีของหลวงปู่ เพราะท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามหลักพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด และเป็นพระที่มีคุณธรรม สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงคุ้มครองให้ร่างท่านปลอดภัย 

อือฮาสรีระ "หลวงปู่วิลาศ" ถูกไฟเผาไม่ไหม้เชื่อหลวงปู่มาให้โชคลาภ

ขณะที่ นางวิไลลักษณ์ ชาวบ้านบ้านโพนทอง บอกว่า ก็รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุเพลิงไหม้แต่ก็อัศจรรย์ใจที่ร่างของหลวงปู่ไม่เป็นอะไร ขณะที่ช่วยเก็บกวาดทำความสะอาดก็เห็นตะพาบน้ำตัวเล็กซึ่งน่าจะถูกไฟไหม้ตายแล้ว   จึงหยิบขึ้นมาดูก็เห็นที่ใต้ท้องมีตัวเลขอย่างชัดเจน จึงนำมือถือถ่ายรูปเอาไว้ เชื่อว่าหลวงปู่อาจจะมาให้โชคลาภ 
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ