บันเทิง

"เขต ธาราเขต" เล่า ลำบากที่สุด เคยกินข้าวกับน้ำปลา ล่าสุดเป็นนักแสดงอิสระ

"เขต ธาราเขต" เล่า ลำบากที่สุด เคยกินข้าวกับน้ำปลา ล่าสุดเป็นนักแสดงอิสระ

10 ก.ย. 2564

"เขต ธาราเขต" ที่ล่าสุดผันตัวเป็นนักแสดงอิสระอีกคนแล้ว และวันนี้จะมาเปิดเผยเส้นทางชีวิตวัยเด็กสุดลำบาก พ่อ แม่ แยกทาง ตัวเองเป็นเด็กปั๊ม พร้อมเปิดวีรกรรมความเกเรสุดขีด โดนเรียน ยกพวกตีกัน แถมตอนนี้เจ้าตัวเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส สร้างอาชีพใหม่ขายต้นไม้

โดยทั้งหมดนี้หนุ่ม "เขต ธาราเขต" จะมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow  ว่าโดนผลกระทบจากโควิด มานานกว่าครึ่งปีแล้ว ทำให้ต้องระบายของบางอย่างของตัวเองเพราะหมุนเงินไม่ทัน โดยนำรองเท้ามาขายให้ต่ำกว่าทุน ร่วม 7 คู่ 

เขตบอกว่า "ตอนนั้นก็มีขายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพวกครีม คอสเมติก ก่อนช่วงโควิกเขตเคยทำเกี่ยวกับร้านชานม ด้วยคู่แข่งหลายๆ อย่าง เราเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างเล็ก เราสร้างแบรนด์ขึ้นมาเองเรารู้สึกว่าเราสู้แบรนด์ใหญ่ไม่ได้ มันก็ปิดตัวลงไป ในเรื่องของพวกคอสเมติกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นครีมกันแดด มาร์กหน้า ที่คีย์แบรนด์ขึ้นมาใหม่พยายามอยากเป็นเจ้าของแบรนด์เอง คิดสูตรเองต่างๆ คุยกับโรงงาน นำเข้ามาบ้าง มันก็ขายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง สุดท้ายมันก็ต้องพับโปรเจกต์เก็บไป"

\"เขต ธาราเขต\" เล่า ลำบากที่สุด เคยกินข้าวกับน้ำปลา ล่าสุดเป็นนักแสดงอิสระ
 

แล้วเงินที่ลงไปทั้งหมดกับธุรกิจแต่ละอย่าง จำนวนเท่าไหร่?
ธาราเขต : ผมว่ารวมๆ ทั้งหมดมีเป็นล้านนะครับ 

ตอนเราต้องตัดใจปิดกิจการแต่ละอันไปเราบอกตัวเองยังไง?
ธาราเขต : มันเป็นอีกหนึ่งอย่างให้เราได้เรียนรู้ ผมทำในช่วงอายุที่ค่อนข้างน้อย แล้วไม่ค่อยมีประสบการมากพอ มันทำให้เรารู้ว่าการตลาดของแต่ละอย่างมันเป็นแบบไหน การจะไปซ้ายไปขวาต้องทำยังไงบ้าง ตลาดคอสเมติกต้องมีการวางแผนยังไงบ้าง เพราะว่าพอเราได้ล้ม เราก็ได้เรียนรู้จากสิ่งที่เราล้ม ผมว่าต้องพลาดก่อน แล้วมันจะทำให้เรารู้ว่าต่อไปเราจะไม่ผิดพลาดเรื่องแบบนี้ 

โควิดรอบ2 กับธุรกิจที่มาแรง คุณขายอะไร?
ธาราเขต : ขายต้นไม้ครับ ต้องบอกว่าเมื่อก่อนเขตชอบปลูกต้นไม้อยู่แล้ว เมื่อก่อนก็ซื้อเล่นๆ ซื้อต้นไม้มาประกับบ้าน เพราะด้วยความที่เขตเป็นคนต่างจังหวัด เรามากรุงเทพฯ ผมก็ได้ซื้อบ้านไว้เป็นทาวโฮม แล้วเรารู้สึกว่าทุกครั้งที่เรากลับไปบ้านที่ชัยนาทเราจะเห็นต้นไม้ที่คุณตา คุณยายเขาปลูก บ้านนอกเราจะเห็นพื้นที่สีเขียว แต่พอเรามากรุงเทพเราอยู่เป็นทาวโฮม เขตก็เลยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้เราดีไหม ทำงานเหนื่อยๆ มาได้เห็นอะไรที่มันสบายตา ก็เลยซื้อเล็กๆ น้อยๆ ตอนนั้นก็เริ่มจากยางอินเดีย 

\"เขต ธาราเขต\" เล่า ลำบากที่สุด เคยกินข้าวกับน้ำปลา ล่าสุดเป็นนักแสดงอิสระ

ตอนนั้นเริ่มตั้งแต่มันไม่เป็นกระแสหรือเปล่า?
ธาราเขต : ใช่ครับ  แล้วตอนนั้นราคายังไม่สูง แล้วก็พอมาปีนี้เหมือนเราซื้อเพิ่มมากขึ้น ความที่เราอยู่บ้านมากขึ้น ซื้อไปซื้อมามันเริ่มเยอะขึ้น ถ้าเราลองขายละจะเป็นแบบไหนดี ก็เลยลองโพสต์ขายเล่นๆ ครับ ต้นแรกได้กำไรมา 2500 เราก็เลยแบบมาถูกทางแล้ว ถ้าอย่างนั้นเราลองซื้ออย่างอื่นมาไหม ก็ลองซื้อมา ขายไป หลายๆ ต้น ช่วงที่ทำเห้ย...มันได้ มันมีรายรับเข้าตลอด เพราะว่าช่วงที่หนุดโควิดไปมันมีแต่รายจ่าย เราก็เจอช่องทางละ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ผมก็แยกแล้วไปมีกล้วยบ้าง 

เราเอามาชำเอง ปลูกลงกระถ่างเองด้วยไหม?
ธาราเขต : ใช่ครับ ตอนแรกเขตซื้อมาขายไปค่อนข้างเยอะ คอร์สมันเลยสูงขึ้น ก็เลยมานั่งคิดว่าถ้าเราซื้อมา แล้วเรามาชำเอง มันจะประหมัดมหาศาลมาก ก็เลยอดทนนิดนึงครับ ยอมซื้อเข้ามาแล้วก็ตัดขาย ตอนนี้ทุกต้นของผมคืนทุนหมดแล้ว เหมือนเราซื้อต้นมา 15,000 บาท เราตัดเลย เราได้ 5 ต้น เราขายต้นต่ำๆ ต้นละ 4,000 บาท มันก็เกินทุนแล้ว 

แล้วอันไหนที่เป็นแสน?
ธาราเขต : คือกล้วยตานีด่างครับ ยอดที่เขตขายสูงสุดเลย 100,000 บาทครับ 

ทำไมราคามันพุ่งขนาดนั้น?
ธาราเขต : มันเป็นช่วงนึง แต่ช่วงนี้เขาก็ยังเล่นอยู่นะครับกล้วย มันก็เป็นไม้กระแสด้วยระดับนึง 

\"เขต ธาราเขต\" เล่า ลำบากที่สุด เคยกินข้าวกับน้ำปลา ล่าสุดเป็นนักแสดงอิสระ

อย่างนี้ต้องมีความรู้ไหม ไม่ใช่คนสุ่มสี่สุ่มห้าไปตัดๆ แล้วปัก?
ธาราเขต : มันไม่ได้ขึ้นทุกต้นครับ ต้องบอกว่าตั้งแต่มาปลูกต้นไม้เป็นคนใจเย็นขึ้นเยอะมาก แล้วก็ตื่นเช้าขึ้นกว่าเดิม เพราะเราต้องตื่นมาดูต้นไม้ มันปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตไปหมดเลย 

อันนี้เหมือนค้นพบอีกอาชีพนึงเลย?
ธาราเขต : ใช่ 



เคยคิดไหมว่าวันนึงตัวเองจะมาขายต้นไม้?
ธาราเขต : ไม่เลยครับ คือคุณพ่อ คุณแม่ผมยังตกใจ บอกว่าอยู่ดีๆ ลูกมาทำอะไรแบบนี้ได้ยังไง 

น้องเขตได้รับเงินจากการขายต้นไม้ก็เอาไปบริจาคช่วยโควิดด้วย?
ธาราเขต : ใช่ครับ พอเราทำได้สักพัก เรารู้สึกว่าทุนเราก็ได้กลับมาบ้างส่วนนึง แล้วในสถานการณ์แบบนี้เราเคยตกลำบากมาก่อน แล้วได้ลงพื้นที่ไปแจกอาหารคนในชุมชนบ้าง ที่ผมได้ทำโปรเจกต์ไว้ ไม่ว่าจะทำรถกับข้าว ทำอาหารให้กับพี่ๆ บุคลากรทางการแพทย์ ก็เลยเกิดโปรเจกต์นี้ขึ้นมา ก็คือนำต้นไม้กับผลิตภัณฑ์จากสยามตานีที่เป็นกระเป๋าทำจากหยวกกล้วยตานีด่าง มาแปรรูปเป็นกระเป๋า แล้วเรานำมาประมูล นำรายได้ทั้งหมดไปซื้อชุด PPE 

ที่ผ่านมาคนบอกช่วงนี้ไม่มีงาน มาไลฟ์ขายของ มีคำคอมเมนต์หรือนินทาเข้าหูเราบ้างไหม?
ธาราเขต : ก็มีเยอะนะครับผม เขาคงคิดว่าเรามาจะบเป็นกระแสหรือเปล่า หรือทำแบบฉาบฉวยหรือเปล่า มันก็มีหลายๆ ทางเข้ามา แต่เราพยายามมองข้าม เพราะว่า 1.ด้วยความที่เราเป็นนักแสดงอยู่แล้ว เราอยู่ข้างหน้า เราทำอะไรเราค่อนข้างคิดเยอะนิดนีง แรงกดดันมันมีทุกงาน ไม่ว่าจะเป็นวงการละคร วงการต้นไม้มีหมด แต่สิ่งที่จะให้อยู่ได้ยาวๆ คือผมรู้สึกว่าเป็นความอดทน ความเข้าใจ ตอนนี้โซเชียลมันไวมาก เราจะโพสต์อะไร เราก็ต้องคิดนิดนึง 

สมัยเด็กชีวิตของเขตเป็นยังไงบ้าง?
ธาราเขต : ต้องบอกว่าชีวิตเขตเริ่มจากศูนย์ เพราะว่าเป็นเด็กบ้านนอก พูดได้เต็มปาก มั่นใจและภูมิใจด้วยเป็นเด็กบ้านนอกหนึ่งคนเลย


คุณพ่  คุณแม่ แยกทางกัน?
ธานาเขต : คุณพ่อ คุณแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็ก ผมประมาณ 6-7 ขวบได้ ผมว่าตอนผมเป็นเด็กผมอาจจะไม่ได้เข้าใจร้อยเปอร์เซต์นะ แต่เราก็เข้าใจสถานการณ์ว่าเราต้องอยู่กับใคร เราเห็นหลายๆ เหตุการณ์ที่คุณพ่อ คุณแม่ทะเลาะกัน ก็เข้าใจ แต่พอโตมาเรามองย้อนกลับไป เรารู้สึกว่าเข้าใจเขานะว่าวันนั้นมันเกิดอะไร


ในมุมของผู้ใหญ่เขาได้อธิบายเราไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?
ธาราเขต : เขาไม่ได้อธิบายครับ เขาแค่สอนเราว่าให้เป็นเด็กดีนะ โตไปให้ทำตัวดีๆ


แล้วเขตอยู่กับใคร 
ธาราเขต : อยู่กับคุณแม่


เห็นบอกว่าอยู่กับคุณแม่ก็ลำบาก ตอนแยกทางช่วงใหม่ๆ?
ธาราเขต : เมื่อก่อนคุณแม่ทำงานอยู่องค์กรโทรศัพท์ ก็ออกมาทำเป็นเสมียนปั๊ม ผมตอนนั้นด้วยความเด็ก ต้องปั่นจักรยานไปดูแม่บ้าง ไปช่วยคุณแม่บ้าง มาดูน้องสาวด้วย ผมก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นผมคิดได้ยังไงด้วยความที่อยากจะช่วยคุณแม่แบ่งเบทภาระ ก็เลยอาสาช่วยคุณแม่เติมน้ำมันแล้วกัน

เป็นเด็กปั๊มด้วย ไปเสริมคุณแม่ ตอนนั้นคุณแม่ได้รายได้ประมาณเท่าไหร่?
ธาราเขต : ผมไม่ทราบเลยครับว่าได้เท่าไหร่ แต่วันนั้นผมได้ประมาณ 10-20 บาทต่อวัน ก็โอเคแล้วสำหรับเด็ก ก็พยายามช่วยคุณแม่ให้มากที่สุด ดูแลน้องสาวให้ดีที่สุด แล้วก็ตั้งปฏิญาณกับตัวเองว่า เราจะไม่กลับมาเป็นแบบนี้แล้วนะ ผมจะทำให้คุณพ่อ คุณแม่สบายให้มากที่สุด พูดกับตัวเองมาตลอดเลยตอนนั้น


แล้วที่ต้องทานข้าวคลุกน้ำปลาคือตอนไหน?
ธาราเขต : เมื่อก่อนด้วยความที่เราเด็กเราหิว แล้วคุณแม่ไม่ได้อยู่บ้านด้วย เมื่อก่อนข้าวกับซอสผมก็อร่อยแล้วนะ ข้าวกับแตงโมผมก็ยังอร่อยเลย ด้วยความที่คุณแม่ออกไปทำงานด้วย เราก็ไม่ได้ทำกับข้าว ทำอะไรเป็น ก็พยายามต่อชีวิตตัวเอง ณ เวลานั้น ข้าวซอสก็อร่อยแล้ว


เห็นบอกว่ามีช่วงลำบากที่ครอบครัวมีเงินติดตัวน้อยๆ เหมือนกัน?
ธาราเขต : มีครับๆ แต่ผมเห็นว่าคุณแม่พยายามเก็บอาการ พอเราโตขึ้น เรามองย้อนกลับไปเห็นความอดทนของคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ไม่อยากแสดงอาการให้ลูกเราเห็น มันต้องขอบคุณแม่มากๆ ที่ไม่แสดงอาการให้เห็น พอเราโตมาเราได้เห็นอะไรเยอะแยะ มองย้อนกลับไปคนที่เป็นพ่อ แม่ เขาเก่งมากๆ ครับ ที่ต้องเก็บอะไรหลายๆ อย่าง ผมเชื่อว่าวันนั้นเขาลำบากมาก แต่เขาทำให้เราเห็นเหมือนไม่ลำบาก


ตอนนั้นน้องเขตเรียนอยู่ที่ชัยนาท?
ธาราเขต : ผมเรียนถึง ป.6 ครับ ตอนนั้นตั้งใจด้วยคุณตาเป็นตำรวจ แล้วจะตั้งใจเรียนเป็นนายร่อยตำรวจ


เห็นว่าเพราะครอบครัวลำบากเลยตั้งใจเรียน เพราะไม่อยากกลับมาลำบากแบบนี้?
ธาราเขต : ถูกต้องครับ ตัวน้องสาวเขตด้วยบ้านที่เป็นแบบนี้ เราตั้งใจเรียนกันโดยอัตโนมัติ เพราะว่าคุณแม่จะเคี้ยวเรื่องเรียนมาก เพราะว่าด้วยความที่คุณพ่อเป็นคุณครูอยู่แล้วก็จะโดนความเคี้ยวมาตั้งแต่เด็กๆ  เรื่องการเรียนจะไม่มีตกบกพร่องเลย ตั้งแต่ป.1-ป.6 ก็คือจะอยู่ที่ 1,2,3 ไม่เกินนี้


แล้วชีวิตไปหลงทางคอนไหน กลายเป็นเด็กเกเร?
ธาราเขต : ม.ต้นครับ มาเรียนอยู่ที่นครสวรรค์ ผมสอบเข้าได้ เมื่อก่อนเป็นโรงเรียนชายล้วน แต่ตอนนี้เขาปรับเป็นโรงเรียนสหแล้ว ตอนนั้นผมอยู่หอคนเดียวตั้งแต่ ม.1 เลยครับ โดนส่งมาให้ใช้ชีวิตตั้งแต่ ม.1 เลย พอม.4 เข้ามากรุงเทพ มาโรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า ก็มีเรื่อง มีราวนิดหน่อย จริงๆ เพื่อนทุกคนน่ารักนะ แต่ด้วยความที่ผมอาจจะไม่เจอสังคมในกรุงเทพก็เลยอาจจะไม่เข้าใจกระบวนการของพวกเพื่อนๆ อยู่ผิดที่ ผิดทางนิดนึงครับ ผมเป็นคนตัวเล็กก็พยายามตามแก๊งเพื่อนๆ เพื่อนๆ ไปมีเรื่องชกต่อยเราก็จะตามๆ แบบเป็นแก๊ง โดดเรียนบ้าง ตอนนั้นสนุกสนาน เราไม่คิดว่าอยากมาทำงานอะไร กำลังหลงแสงสี เพื่อนใหม่ๆ ช่วงนั้นหัวเรี่ยวหัวต่อเลย พอเหมือนมีเรื่องเยอะ เข้าห้องปกครองเยอะ คุณพ่อจับย้ายครับ มาสตรีวิทย์2 ตอนม.5 อาทิตย์แรกโดนลกไปต่อยเลยครับ ด้วยความที่เมื่อก่อนเราแอบไว้ผมยาว ตอนนั้นเริ่มมีโมเดลลิ้ง เริ่มทำงานบ้าง


เขาไปเห็นที่ไหน?
ธาราเขต : สยามครับ ตอนนั้นก็ยังกลัวอยู่นะครับ จะโดนหลอกไหม หนีด้วย


พอเราไว้ผมยาวเพื่อนลากไปต่อยในห้องน้ำเลย?
ธาราเขต : เป็นเด็กจากนอกโรงเรียนครับ เข้ามาถามหาคนไหนเขต เราก็ไปคุยกันในห้องน้ำ ตอนนั้นอยากสู้นะครับ แต่ไม่สู้เพราะว่าเราช่างน้ำหนักแล้วไม่คุ้ม เพราะเขามากัน 2 คน แล้วเราแบบตอนนั้นเราเพิ่งย้ายโรงเรียนมาใหม่มันยังไม่มีพรรค มีพวก 

แล้วยังไงต่อ ไปฟ้องใครไหม?
ธาราเขต : ก็ฟ้องปกครองครับ เขาก็เรียกคุณพ่อมาคุย จะโดนเรื่องทรงผมซะส่วนใหญ่ 

สาเหตุเพราะเราหล่อเกินในช่วงนั้นจริงไหม?
ธาราเขต : ไม่รู้หรือเปล่านะ แต่คือสมัยก่อนการไว้ผมยาวมันเป็นอะไรที่ต้องทำเรื่องขอโรงเรียน 

ไม่ใช่ประเด็นไปจีบข้ามโรงเรียนแล้วเขาหมั่นไส้แล้วตามมาต่อยใช่ไหม?
ธาราเขต : ผมว่าอาจจะมีส่วนด้วย ผมคิดลึกๆ นะต้องมีใครไปจุดประกายอะไรแน่นอน ต้องมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาแน่นอน ไม่งั้นไม่น่าต่อยเราไม่มีสาเหตุ มันไม่ได้ 

แล้วที่โดนจี้ในห้องน้ำละ?
ธาราเขต : ตอนนั้น ม.5 นี่แหละครับ มาเรียนพิเศษแถวลาดพร้าว101 เรียนเสร็จไปเดินเดอะมอลล์บางกะปิ เราเดินเข้าห้องน้ำ เราเห็นคนนั่งอยู่ตรงสะพาน แต่ไม่สนใจเราเดินเลี้ยวเข้าห้องน้ำเสร็จล้างมือ เงยหน้าปุ๊บ โดนแทงเข้ากระเป๋า แล้วผมก็คว้ามีดบาดมือ แล้วก็คุย ตอนนั้นยอมรับตัวเองว่าสติดีมาก ถามว่าพี่จะเอาอะไร เขาบอกเอาเงินมา เราก็ชวนคุยจนเขาผ่อน คืออาการเขาแบบเมา แล้วขอบคุณทุกคนที่อยู่ในห้องน้ำวันนั้นเดินออกหมดเลยครับ


วันนั้นเสียเงินไปเท่าไหร่?
ธาราเขต : 300 บาทครับ พอทีนี้เขาก็หนี ผมก็วิ่งไล่บอกว่าช่วยด้วยครับ ขโมย ยามรวบตัวได้ ผมก็ต้องไปสถานีตำรวจ พอไปสืบสาวเอ้า...มีคดีติดตัวบานเลย วันนั้นเราได้เงินคืนแต่ต้องไปขึ้นศาล แล้วตอนนั้นอายุยังไม่ถึง 18 ด้วย 


แล้วมาเป็นนักแสดงตอนอายุเท่าไหร่?
ธาราเขต : น่าจะประมาณเกือบๆ ขึ้น ม.6 เริ่มต้นก็ไปแคสงานปกติเลย เขาเรียกไปแคสตลอดเลย เขตก็ไม่ไป เพราะว่ากลัว แล้วเราไม่รู้ระบบของการแคสงานเลย แต่สุดท้ายก็ยอมไป โฆษณาแรกเป็นตัวประกอบ แล้วเริ่มแบบ เด็ก ม.5-ม.6 มีเงินหลักหมื่นมันเยอะมากนะ แล้วเราก็ใช้แบบสุรุยสุร่ายเลย ตอนนั้นเติมเต็มทุกอย่างที่ขาดในชีวิตเลย ซื้อของ เสื้อผ้า เที่ยวเต็มเหนี่ยวเลยครับ เพราะว่าเราเป็นเด็กบ้านนอกที่ไม่มีอะ พอเรามีเงินเราก็ใช้


เลี้ยงสาวไหม?
ธาราเขต : เลี้ยง เปย์เลยครับผม


เห็นว่าไปถูกตาคุณแดง หมายมั่นอยากให้เป็นแถวหน้าของช่อง7?
ธาราเขต : ตอนนั้นได้เจอพี่กบ พามาแคสติ้งที่ทางช่อง เขาก็โอเค ทำการปรับลุคให้เราหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งตัว ตอนนั้นผมแต่งตัวไม่เป็นเลย


เราชอบไหมกับการเปลี่ยนแปลงของเรา?
ธาราเขต : ตอนนั้นไม่ได้เลย ค้านสุดพลัง วัยรุ่นเนอะ แบบไม่ได้นี่มันคือเรา ต้องไว้รากไทร ต้องแต่งสีนี้ ซึ่งมันไม่เข้ากันเลย แล้วพอมานั่งดู โอ้โห...เราผ่านมาได้ยังไงเนี่ย


แล้วต้องคุมความประพฤติด้วยไหม?
ธาราเขต : ครับ โดนควบคุมความประพฤติเล็กน้อย เรื่องไปเที่ยวครับ เมื่อก่อนเที่ยวหนักมาก ก็โดนแบบว่าให้เบาๆ ลง


คืนๆ นึงที่ไปเที่ยวกมดเยอะขนาดไหน?
ธาราเขต : ตอนนั้น 2-3 พันต่อคืน แล้วเราไม่ได้เที่ยววันเดียว อาทิตย์นึงมีสัก 4-5 วัน 


แล้วผู้หญิงมีเข้ามาเยอะไหม?
ธาราเขต : ตอนนั้นก็มีเราไปเจอตามสถานที่ท่องเที่ยว มันก็เป็นเรื่องปกติที่เราไปเที่ยว แต่เราไปเน้นความสนุกกับเพื่อนๆ ซะเยอะ ตอนนั้นจะติดเพื่อนซะส่วนใหญ่


ตอนนั้นเริ่มทำงาน เริ่มถ่ายละครหรือยัง?
ธาราเขต : กำลังครับ แล้วก็ต้องเริ่มเบาลง แต่พอเริ่มมาถ่ายละครแล้วก็แอบมีไปบ้าง ก็มีเรื่อง มีราว เหมือนชกกันกับการ์ด แต่คือผมไม่ได้เข้าไปมีเรื่อง ก็ไปห้ามเพื่อนออกมา ไม่งั้นยาวแน่นอน เพราะว่าเพื่อนๆ ที่ไปก็คนในวงการ


เรื่องไปถึงหูผู้บริหารไหม?
ธาราเขต : ถึงครับ แล้วก็โดนเรียกเข้าห้องเย็น ก็โดนตักเตือน หลังจากนั้นพวกผมปฏิญาณกันเลยว่าจะต้องเบา


แล้วทำไมจู่ๆ กลายเป็นนักแสดงอิสระ?
ธาราเขต : พอเราทำงานมาได้สักระยะนึง อยู่กับทางช่องมาเกือบ 8 ปีได้ ก็เจอทุกบทบาท ทุกการแสดง เราได้ลองทำมาเกือบหมดแล้ว วันแรกที่คิดว่าจะออกหรือไม่ออกเนี่ยเครียดมากๆ ได้ปรึกษาพี่ๆ หลายคน ถ้าผมออกมาจะเป็นแบบไหน เพราะว่าผมมาไล่ๆ กับพวกพี่เขา กลัวออกมาแล้วไม่มีอะไรทำ กลัวไม่รู้ว่าจะต้องไปซ้าย ไปขวา กลัวไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นกับใครก่อน เพราะว่าเราอยู่บ้านหลังนี้มาตลอด ก็ต้องขอบคุณบ้านหลังนี้ที่สร้างเรามาเป็นเขต ธาราเขต ได้ สุดท้ายก็ตัดสินใจเราจะเดินหน้ามันไม่ได้อยู่ที่ขา มันอยู่ที่ใจเรา เราเลยไม่ต่อสัญญา วันนั้นก็เคว้งเลย แล้วก็หายไปเลยเกือบปีครึ่ง สองปี


ตอนนั้นเขาได้มียื้อ หรือบอกอะไรเราไหม?
ธาราเขต : เขาก็ไม่ได้ยื้อนะครับ เพราะว่าเราได้คุยกับเขาจบด้วยกันโอเคครับ เราบอกเลยว่าเขามองเราแบบไหน มองเราในทิศทางไหน เพราะว่าผมโตแล้วนะครับ ผมต้องวางเป้าหมายชีวิตแล้วว่าผมต้องทำอะไรต่อหลังจากนี้ เราได้วางแผนการใช้เงิน การใช้ชีวิตว่าโอเค ฉันละเล่นละครเท่านี้ๆ นะ หรือต้องทำอะไรบ้าง เขาก็อาจจะยังไม่มีเป้าหมายที่แน่ชัดให้เรา เราก็เลยรู้สึกโอเค งั้นเราออกไปท่องโลกดีกว่า 

เกี่ยวกับเราน้อยใจไหมช่วงหลังๆ เราไม่ได้รับบทพระเอก?
ธาราเขต : ผมเคารพในการตัดสินใจของผู้ใหญ่ทุกครั้ง เพราะว่าการที่เขาเลือก 1 ตัวละครมาให้เรา ผมคิดว่าเขาคิดดีแล้ว แล้วผมก็ได้ทำหน้าที่ของสิ่งเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการแสดงต่างๆ ถ้าใครได้ติดตาม ไม่ว่าจะเป็นบทอะไรก็ตาม เขตทุ่มเทกับมันแบบ 100% เขตเป็นคนที่รักการแสดงมาก และทุกครั้งที่แสดง เขตทำการบ้านค่อนข้างเยอะ พอเมื่อก่อนเราผิดพลาดเยอะ เรารู้สึกว่าต้องทำการบ้านเยอะขึ้น ผมเลยปรับแนวคิดตัวเองใหม่ทุกตัวละครมีความสำคัญหมด ทำยังไงก็ได้ให้เขาสนใจเรา


มีภาพนึงที่เขตแฮปปี้มาก คือการที่พ่อ แม่ ได้มาเจอกัน ถ่ายภาพด้วยกัน อันนั้นมาเจอกันได้ยังไง?
ธาราเขต : คือผมไม่มีภาพครอบครัวเลยตั้งแต่จำความได้ ภาพนี้ดีมาก มองทุกครั้งหายเหนื่อย มันเป็นภาพงานวันเกิดผมครับ เป็นวันที่ผมสามารถหลอกล่อพ่อ แม่ ให้มางานทำบุญก็เลยเกิดภาพนี้ขึ้นมา


ตั้งแต่เข้าวงการมาคุณมีแฟนทั้งหมดกี่คน?
ธาราเขต : 4 คนได้ครับ ช่วงนั้นไม่ปิดเลยครับ เราเป็นคนชัดเจนอยู่แล้ว เราก็ให้เกียรติเขาด้วย 

คนปัจจุบันนี้เปิดตัวไปแล้ว?
ธาราเขต : ก็เปิดแต่ไม่ได้ปิด น้องเพลง ครับ 

ไปเจอกันได้ยังไง?
ธาราเขต : ก็เจอกันตามงานครับ ก็ได้คุย ได้ฟอลโลว์อินสตาแกรมกัน ก็ไดเร็กต์ ทักสตอรี่กันไป บลาๆ ครับผม สไลต์หยอดกันไปมา ก็พักใหญ่ๆ เลยครับ 

ถ้าเขตพูดถึงตัวเอง เขตว่าตัวเองเจ้าชู้ไหม?
ธาราเขต : เจ้าชู้ครับ เพราะว่าเมื่อก่อนเจ้าชู้ ด้วยความวัยรุ่น มันอยากลองทำหลายๆ อย่าง แล้วด้วยความที่มีคนเข้ามา ต้องยอมรับ แต่ในความเจ้าชู้นั้นผมก็ได้เรียนรู้ ว่าผมเกิดจากครอบครัวที่ได้มีประสบการณ์ที่ครอบครัวเลิกกัน ผมบอกกับตัวเองว่าผมต้องมีครอบครัวที่เพอร์เฟคท์ครับ