ข่าว

“จิ้งจกทัก”

“จิ้งจกทัก”

14 ก.พ. 2553

คุณเคยได้ยินเรื่องนี้มั้ยครับ?

 ถ้าตอบว่า “ใช่” คุณคงรู้จักคำว่า “สัญญาณเตือน” ได้ไม่ยาก

 คำคำนี้ความหมายตรงตัว เป็นลางบอกเหตุ คล้ายกับสภาวการณ์ที่เกิดขึ้น เตือนให้ต้องระวังภัยเบื้องหน้าที่พร้อมดาหน้าเข้ามาได้ทุกเมื่อ

 เรื่องเดียวกัน แต่ผมเปลี่ยนคำถามใหม่ แล้วคุณเชื่อหรือเปล่า?

 ผมลองสำรวจคนใกล้ตัว มากกว่าครึ่งเชื่อเรื่องพรรค์นี้ ส่วนหนึ่งเพราะทุนเดิมบ้านเราฝังใจกับไสยศาสตร์ แถมบางคนถือเคล็ดหนัก ใครทักไม่ได้ พารานอยด์เกินเหตุ จะมีน้อยรายที่สุดโต่ง ไม่เชื่อไม่ว่าแถมรับไม่ได้เลย

 “เคสจิ้งจก” ก็แค่ตัวอย่างพอหอมปากหอมคอ เอากันจริงๆ สัญญาณเตือนในชีวิตมีมากมาย พนันว่าแต่ละคนน่าจะเคยผ่านมาบ้างแล้ว เพียงแต่จะเปิดใจยอมรับหรือเปล่า…ก็เท่านั้น

 อย่างทำงานได้สักสี่ห้าปี แต่ไม่เติบโตไปไหน โดนดุมากกว่าโดนชม เพื่อนฝูงวัยและตำแหน่งใกล้กันขยับไปหมดแล้ว คนคิดเป็นก็น่าจะรู้ว่า นี่คือการส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง

 ถ้าจำได้ เหตุไฟไหม้ซานติก้าไม่นานนี้ คนที่รอดมาได้เพราะรู้จักสังเกต เมื่อเห็นประกายไฟและรู้สึกร้อนๆ อึดอัดชอบกล ก็ตีความถึงลางร้าย ต้องเผ่นหนีตายก่อน

 ลูกเต้าจากที่เคยขยันตั้งใจเรียน จู่ๆ ก็กลับบ้านไม่เป็นเวลา คุยโทรศัพท์ดึกๆ เล่นเกมมากขึ้น พ่อแม่ที่ไม่ประมาท ก็พร้อมจัดการกับสัญญาณเตือนนี้ได้ทันเวลา

 เป็นแฟนกันดีๆ เริ่มตีตัวออกห่าง เคยนัดไปเที่ยวก็บ่ายเบี่ยง เมื่อกลับบ้านดึก ก็อ้างมีประชุมตลอด หรือไม่ก็ติดธุระไปกินข้าวกับเจ้านาย… ลองคิดดีๆ ผมว่านี่คือลางบอกเหตุ

 หลังตรวจสุขภาพ เห็นดัชนีต่างๆ ค่อยๆ สูงขึ้นเกินเกณฑ์มาตรฐาน แม้จะยังไม่เจ็บป่วยร้ายแรง แต่อย่างน้อยเราก็ต้องเริ่มระวัง ปรับนิสัยการกินแล้ว

สัญญาณเตือนจึงมากกว่าที่คิด มีมากกว่าที่เห็น และไม่ได้เป็นแค่เรื่องงมงายอย่างเดียว 

 ส่วนจะเชื่อหรือไม่? ผมชวนให้ใช้เส้นทางสายกลาง ขึ้นอยู่กับแต่ละเรื่องมากกว่า ฟังหูไว้สองหู ไม่ต้องเชื่อแบบขวาจัดแต่ก็ไม่ลบหลู่ ได้ยินด้วยใจแล้วใช้ปัญญาหาเหตุผล ใคร่ครวญความน่าจะเป็น

 เกณฑ์ส่วนตัว บางทีผมก็ใช้คอมมอนเซนส์ ซึ่งเรื่องนี้ให้สอนก็ยาก น่าจะเป็นธรรมชาติที่แต่ละคนได้มาแต่เกิด จะดีหน่อยก็ต้องค่อยๆ บ่มเพาะประสบการณ์ เรียนรู้เอาตัวรอดเองบนโลก

 มีบ่อยเหมือนกันที่ผมอาศัยทฤษฎีความถี่ ของบางอย่างเกิดครั้งสองครั้ง ผมจะยังไม่ปักใจเชื่อ แต่ถ้าเกิดทุกบ่อยๆ ผมก็อนุมานว่าคือสัญญาณเตือนได้เหมือนกัน 

 วกกลับเข้ามาเรื่องเงินๆ ทองๆ สัญญาณที่เตือนว่าเราอาจมีปัญหามีเยอะ อย่างค่าน้ำ ค่าไฟที่เคยจ่ายได้แบบราบรื่น จู่ๆ ก็ติดขัด หนี้บัตรเครดิตจากที่จ่ายเต็มจำนวนก็เปลี่ยนเป็นชำระขั้นต่ำ ค่าโทรศัพท์เริ่มส่งหนังสือทวงถามมาบ้างแล้ว

 ค่อยๆ นึกดูนะครับ เผลอๆ คุณอาจกำลังได้สัญญาณเตือนโดยไม่รู้ตัวก็ได้

 คนฉลาด เมื่อได้กลิ่นบอกเหตุแม้เพียงน้อยนิด ก็กุลีกุจอแก้ปัญหา เรื่องเงินไม่เหมือนเรื่องอื่น ไม่เข้าใครออกใคร ยิ่งปล่อยทิ้ง ยิ่งเป็นปัญหาลุกลามใหญ่โต

 ปรัชญาชีวิต ต้องไม่ประมาท ฉลาดหา ฉลาดใช้ ฉลาดเก็บ ฉลาดลงทุน ฉลาดตรวจสุขภาพการเงินประจำ ปิดสวิตช์สัญญาณเตือน ไม่ให้ทำงาน จะเซฟที่สุด

 ทำได้ขนาดนี้ อย่าว่าแต่จิ้งจกทักเลยครับ ตากระตุก หรือฝันร้ายกลางดึก ก็เอาตัวรอดได้ครับ

ชัยพล กฤตยาวาณิชย์
[email protected]