ข่าว

"ข่าวปลอม" แชร์ว่อน ธปท.ปล่อยกู้ช่วยร้านอาหาร-ไรเดอร์ เป็นข้อมูลเท็จ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ข่าวปลอม" แชร์ว่อน ธปท. ปล่อยกู้ช่วยสภาพคล่องร้านอาหาร-ไรเดอร์-ท่องเที่ยวจากผลโควิด-19 ตรวจสอบแล้วเป็นข้อมูลบิดเบือน

วันที่ 10 ก.ย. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้าน "ข่าวปลอม" สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวบิดเบือน เพิ่มเติม 1 กรณีคือ กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลถึงประเด็นเรื่อง ธปท. ปล่อยกู้ช่วยสภาพคล่องร้านอาหาร-ไรเดอร์-ท่องเที่ยวจากผลโควิด-19 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง พบว่า ประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน "ข่าวปลอม

 

"ข่าวปลอม" แชร์ว่อน ธปท.ปล่อยกู้ช่วยร้านอาหาร-ไรเดอร์ เป็นข้อมูลเท็จ

 

ทั้งนี้ กรณีการให้ข้อมูลว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย ปล่อยกู้ช่วยสภาพคล่องร้านอาหาร-ไรเดอร์-ท่องเที่ยวจากผลโควิด-19 ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ธปท. ไม่ได้ปล่อยกู้ "ข่าวปลอมแต่เป็นการเพิ่มการให้ความช่วยเหลืออีกรูปแบบหนึ่ง ผ่านการเป็นตัวกลางในการประสานระหว่างสถาบันการเงิน และผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารและกลุ่มไรเดอร์ ให้ได้รับความช่วยเหลือเสริมสภาพคล่องธุรกิจได้อย่างตรงจุด และจะมีการขยายความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบในธุรกิจอื่นๆ อีกในระยะต่อไป "ข่าวปลอม

 

ดังนั้น ข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์  "ข่าวปลอม ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.bot.or.th หรือโทร. 02 2835353

 

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ธปท. ไม่ได้ปล่อยกู้ แต่เป็นตัวกลางในการประสานระหว่างสถาบันการเงิน และผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารและกลุ่มไรเดอร์ ให้ได้รับความช่วยเหลือเสริมสภาพคล่องธุรกิจได้อย่างตรงจุดเท่านั้น

 

"ข่าวปลอม" แชร์ว่อน ธปท.ปล่อยกู้ช่วยร้านอาหาร-ไรเดอร์ เป็นข้อมูลเท็จ

 

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิต "ข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป

 

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”
 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ