ไม่จบ ดราม่า "MEYOU" แฟนเก่า-แฟนใหม่ โต้กันเดือด ฉะคบซ้อน เลยชิ่งบอกเลิก

ยังมีดราม่าต่อเนื่องสำหรับนักร้องหนุ่ม MEYOU หรือ มิว ชิษณุชา เจ้าของเพลง พัทยา ที่กำลังโด่งดังอยู่ขณะนี้ ทั้งเรื่องมีคนมาทวงเครดิตที่ช่วยแต่งเพลง และเรื่อง จีน่า เดอซูซ่า นักร้องสาวซึ่งเป็นอดีตแฟนของมิว ออกมาร่วมวงแฉเรื่องคบซ้อน ที่มิวออกมาชี้แจงไปแล้วว่า ตนกับมิน แฟนสาวคนปัจจุบันรักกันดีมาก มีคนพยายามจะทำลายความรักของเราด้วยการเอาเรื่องเก่า ๆ 3 ปีที่แล้วมาพูด ไม่รู้ทำเพื่ออะไร

 

 

 

ล่าสุด (9 กันยายน 2564) มิน แฟนสาวคนปัจจุบันของมิว ก็ออกมาโพสต์สตอรี่ถึงจีน่า ตั้งคำถามเรื่องที่จีน่าไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งจีน่าบอกมิวว่าไปเรียน 6 เดือน ให้มิวรอนะ แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้ไปเรียน จึงตั้งคำถามว่าไปอยู่กับใคร แถมบอกกับผู้ชายอีกคนว่าเลิกกับมิวแล้ว แถมยังมาโพสต์ว่ามิวคุยซ้อน เลยตัดสินใจไปเรียนต่ออเมริกา ทั้งที่ตอนจีน่าไปอเมริกา มินยังไม่ได้คุยกับมิวเลย แบบนี้คนละไทม์ไลน์กันแล้ว

 

ด้าน จีน่า เดอซูซ่า ก็โต้กลับทันที ด้วยการแชร์สตอรี่ดังกล่าวของมิน พร้อมแปะข้อความจากผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่า “สวัสดีครับ จีน่าบอกพี่ว่าเลิกกับมิวก่อนแล้ว ถึงจะมาคบกับพี่ ไม่ใช่ยังไม่เลิกกันตามที่เข้าใจ”

 

จีน่าระบุเพิ่มเติมอีกว่า ที่ตอนนั้นตนต้องเลิกกับมิว เพราะจีน่าทะเลาะกับมิวเรื่องมินกับน้องไฮโซคนหนึ่ง จีน่าก็เลยบอกเลิกมิวที่สยาม ก่อนจะเดินทางไปอเมริกา บอกเลิกกันตรงโตโยต้า โรงหนังลิโด้เก่า “ใช่ค่ะ เลิกกันก่อนถูกแล้ว ใครจะโง่รอให้คบซ้อนถึงบอกเลิกล่ะคะ ไม่อยากเป็นควายแล้ว”

 

 

 

จีน่ายังแฉต่อเนื่องด้วยการเผยแชตสนทนากับคนหนึ่งที่บอกว่า ตอนนั้น มิวคุยกับน้องไฮโซคนหนึ่งและคุยกับน้องสาวของเขาด้วย คนที่รู้เรื่องทั้งหมดเขาคือคนกลาง โคตรอึดอัดเลย อย่าให้พูด

         
ด้านมิน แฟนคนปัจจุบันของมิว ยังได้โพสต์สตอรี่โต้กลับอีกครั้ง ระบุว่า ตอนคุณทะเลาะกันแล้วไปอเมริกา เรายังไม่รู้จักกับพี่มิวเป็นการส่วนตัว เพิ่งได้มาคุยกันช่วง 8 กันยายน คนรอบข้างคุณก็รู้ทุกอย่าง แล้วการที่พี่มิวจะคุยกับใครหลังจากเลิกกับคุณ อันนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของพี่มิวนะคะ เราคุยเพราะเขาเคลียร์ตัวเองแล้ว ตอนนี้พูดไปก็เหมือนสาวความให้ยาว ความจริงเป็นอย่างไรคุณก็รู้ คุณไปหลายเดือนแล้วเราถึงมาคุยกัน ไม่ได้เป็นคนทำให้ความสัมพันธ์ของคุณร้าวฉานค่ะ สุดท้ายขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของทุกคน คงพูดได้แค่นี้เรื่องนี้ และไม่แฟร์ที่จะให้ฝ่ายนั้นพูดอยู่ฝ่ายเดียว