ข่าว

ปธ.สอบ258ล้านชี้สำนวนยังบกพร่องมาก

ปธ.สอบ258ล้านชี้สำนวนยังบกพร่องมาก

13 ก.พ. 2553

ปธ.คณะทำงาน 258 ล้านบาท เผย สำนวนยังมีข้อบกพร่องมาก เร่งทำคดีต้องสอบอีกหลายปาก ดีเอสไอ ยังไม่ชี้ชัดว่า 258 เป็นการไซฟอนเงินหรือไม่ หากชี้ชัดเป็นการไซฟอนเงินปชป.ก็อาจจะนำไปสู่การถูกยุบพรรคได้ เพราะเป็นการรับเงินที่ไม่ถูกต้องมาใช้

(13ก.พ.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ม.ล.ประทีป จรูญโรจน์ ที่ปรึกษาประธานกกต.ในฐานะประธานคณะทำงานของนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่ตั้งขึ้นมาสอบกรณี 258 ล้านบาท เปิดเผยถึงความคืบหน้า ว่า จากการที่ได้พิจารณาสำนวนคดีดังกล่าวแล้วพบว่า ยังมีข้อบกพร่องอยู่หลายส่วน โดยเฉพาะในส่วนที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ส่งมาให้นั้นยังไม่ได้มีการพิสูจน์ว่า เป็นเงินที่ได้มาโดยชอบหรือไม่ รวมทั้งไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าเข้าข่ายความผิดมาตรา 94 ซึ่งเป็นมูลเหตุแห่งการยุบพรรคได้

 ดังนั้นเราจึงได้เชิญพ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อดีตรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผู้ทำคดีเรื่องนี้ มาสอบเพิ่มเติม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และในสัปดาห์นี้ก็จะเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกกรณี ที่บริษัททีพีไอโพลีน จำกัดได้นำเงิน 258 ล้านบาท มานั้นเป็นการทำมาใช้ผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะเป็นเงินจากกองทุนฟื้นฟู จะถือว่าเป็นการไซฟอนเงินหรือเปล่า เพราะในช่วงเวลานั้น บริษัท ทีพีไอ ฯ ยังเป็นบริษัทที่อยู่ระหว่างการฟื้นฟูอยู่ หากนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ นำเงินมาใช้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ถือว่าเป็นการผิด พ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ ก็อาจจะต้องถูกดำเนินคดีตามพ.ร.บ.ตลาดหลักทรัพย์ไป ส่วนจะมีความผิดตามพ.ร.บ.พรรคการเมืองหรือไม่เราก็ต้องสอบฯ ต่ออีกว่า เงินดังกล่าวนั้นมีความเกี่ยวข้องเกี่ยวโยงกับพรรคประชาธิปัตย์อย่างไร เพราะหากพรรคมีการนำเงินมาใช้ก็มีกฎหมายพรรคการเมืองที่สามารถเอาผิดได้

 อย่างไรก็ตามการที่เราจะมาพิจารณาว่าผิดตามพ.ร.บ.พรรคการเมืองหรือไม่อย่างไร นั้นเราก็ต้องมาดูในองค์ประกอบว่า เจตนาเป็นการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย ผิดศีลธรรมอันดี หากมีเจนตาอย่างนั้นมันก็ถือว่าบ่งชี้มีความผิดในพ.ร.บ.พรรคการเมืองได้ ซึ่งเราก็ต้องหาส่วนที่เกี่ยวโยงกับพรรคว่า เงินดังกล่าวไปเกี่ยวข้องกับพรรคอย่างไร ซึ่งเท่าที่มีข้อมูลอยู่นั้นเป็นข้อมูลที่มีการกล่าวอ้างถึงเท่านั้น ยังไม่ได้มีการสอบอีกหลายปาก

 ดังนั้นหากจะต้องดำเนินการให้ได้ข้อชัดเจนเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องทำให้รอบครอบ และหาหลักฐานเพื่อให้ได้ความชัดเจนที่สุด ถ้าหลักฐานชัดเจน นายทะเบียนพรรคการเมืองก็สามารถเสนอยุบพรรคประชาธิปัตย์ และนำเข้าที่ประชุมกกต.เพื่อให้กกต.เห็นชอบ ถึงจะไปศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่หากเรื่องยังไม่ชัดเจนยังได้เท่าที่มีอยู่ก็เห็นว่ายังไม่สามารถส่งไปศาลรัฐธรรมนูญได้

 “การทำงานของคณะทำงานฯนี้ไม่ได้มีการตั้งธงไว้ก่อน แต่เราจะสอบสวนให้ได้ความชัดเจนก่อนจะมีความเห็นว่าสมควรยก หรือสมควรยุบ เท่าที่ฟังทางดีเอสไอ เขาก็ยังสอบมาไม่ครบ ยังมีอีกหลายอย่างที่คณะทำงานฯ จะต้องสอบ แต่จะสอบใครบ้างยังไม่สามารถตอบได้ เพราะเกรงว่าผู้ที่เราจะไปสอบอาจจะโดยบล็อก หรือเป็นอะไรไป เราก็ไม่สามารถทำงานได้สะดวก อย่างไรก็ตามก็คณะทำงานก็จะเร่งทำงานให้เร็วที่สุด และก็ต้องรอบคอบด้วย แต่ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ เพราะยังต้องสอบอีกหลายคน เพราะสำนวนยังมีหลายอย่างที่ยังบกพร่องอยู่ ” ม.ล.ประทีป กล่าว