มุ่งปมยิงเด็กเทคโนดุสิตฯฝีมือคู่อริหวังล้างแค้น | คมชัดลึก

 วันที่ 12 ก.พ.5 พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผบช.น.รับผิดชอบงานด้านการสืบสวน เปิดเผยความคืบหน้าคดีนักเรียนนักเลงไล่ยิงกันหน้าห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอซ์แลนด์ เป็นเหตุให้นายอัชณาณัติ นิกฎานนท์ อายุ 18 ปีนักศึกษาแผนกช่างยนต์ ชั้นปีที่ 2 โรงเรียนเทคโนโลยีดุสิต เสียชีวิตบริเวณริมฟุตบาทโดยถูกคนร้ายขี่รถจักรยายนต์ตามประกบและใช้อาวุธปืนไล่ยิงหลังกลับจากงานสถาปนาของโรงเรียนและยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เหตุเกิดวงหัวค่ำของวันที่ 11 ก.พ. 53 ที่ผ่านมา ว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าคนร้ายขับรถจยย.มาด้วยกัน 2 คน

 และใช้อาวุธปืนแบบออโตเมติกสังหารผู้ตาย ซึ่งตำรวจได้ตั้งประเด็นในการสังหารครั้งนี้ไว้ 2 ประเด็น คือ1.ผู้ตายเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับสถาบันฝ่ายตรงข้ามโดยเหตุเกิดในท้อง ที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อปี 2550 ซึ่งฝ่ายตรงข้ามถูกแทงเสียชีวิตและผู้ตายอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย และถูกลงโทษจำคุก 1 ปี แต่ศาลได้ตัดสินให้รอลงอาญาซึ่งศาลเพิ่งมีคำสั่งเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา

 พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวอีกว่า ประเด็นที่ 2 คือ สถาบันของผู้ตายก็มีเรื่องบาดหมางทะเลาะวิวาทอยู่กับอีกสถาบันหนึ่งใน พื้นที่ของจังหวัดปทุมธานี โดยเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทล่าสุดก็เกิดขึ้นที่จังหวัดปทุมธานีซึ่งเป็นวัน เดียวกันกับที่ผู้ตายเสียชีวิต ทางตำรวจจะประสานงานกันในการทำคดีเพื่อตรวจสอบว่าเหตุการณ์ทั้ง 2 เหตุการณ์มีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ในประเด็นเรื่องสถาบัน ส่วนเรื่องความแค้นส่วนตัวจะต้องสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน

 “สำหรับมาตราการในการป้องกันสำหรับโรงเรียนเทคโนโลยีดุสิต ทางผู้บัญชาการได้สั่งการไปทางผบก.น.2 และผบก.น.4 แล้ว ซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้กันและต่อเนื่องกัน โดยสถาบันอยู่ในพื้นที่ของสน.คันนายาว ซึ่งอาจจะต้องใช้แม่แบบการกดดันเข้าไปตรวจสอบแบบที่ใช้กับสถาบันเทคโนยี ปทุมวัน และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกวิทยาเขตอุเทนถวาย และวางกำลังตำรวจเฝ้าระวังตามจุดล่อแหลมเช่น จุดที่ทั้งเทคโนโลยีดุสิตและวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานีจะมาปะทะกัน รวมทั้งย่านห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ สะพานลอย ซึ่งในพื้นที่ของ บก.น.4 ซึ่งเรื่องทั้งหมดท่านผู้บัญชาการได้สั่งการไว้หมดแล้ว นอกจากนี้จะต้องประสานงานร่วมกับ พล.ต.ต.สุรพล ธนโกเศศ รองผบช.ภ.1 ด้วย” พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวในที่สุด

ตร.นำตัวเด็กเทคโนปทุมธานี้เข้าสถานพินิจฯ

พ.ต.อ.วัฒนา วงศ์จันทร์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์  จ.ปทุมธานี กล่าวว่า จะส่งตัวนักเรียนเทคโนโลยีปทุมธานีทั้งหมด ที่ก่อเหตุยกพวกตีกับนักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยีดุสิต แล้วปาระเบิดใส่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลปทุมเวช เมื่อเย็นวานนี้ เข้าสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดปทุมธานี โดยคัดค้านการประกันตัว เพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจ

นอกจากนี้ จะออกหมายจับมือปาระเบิดด้วย หลังพบหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล ส่วนเหตุนักเลงใช้อาวุธปืนยิงนักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยีดุสิต บาดเจ็บสาหัส 1 คนบนถนนรามอินทรานั้น เป็นพื้นที่ของสถานีตำรวจนครบาลบางชัน ซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบ จึงไม่สามารถสรุปได้ว่า คดีทั้ง 2 เชื่อมโยงกันหรือไม่

รองผบก.ภ.1เรียกตร.ประชุมตามล่าคู่อริเพิ่มอีก3คน

 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบก.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.วัฒนา  และ พ.ต.ท.วรพจน์ เชิดชู รอง ผกก.ปป. ร่วมประชุมถึงความคืบหน้าของคดีนี้ และได้กล่าวว่า ขณะนี้นักศึกษาที่ถูกจับกุมตัวได้จำนวน 11 คน ยังควบคุมตัว ยังไม่ให้ประกันตัว โดยในวันนี้จะนำผู้ต้องหาส่งศาลจังหวัดธัญบุรี และพนักงานสอบสวนจะพิจารณา เป็นรายบุคคลว่า จะสามารถให้ประกันตัวได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีการก่อเหตุซ้ำซาก ซึ่งจขะมีการติดตามคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดี เนื่องจากภาพถ่ายกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลปทุมเวช ได้บันทึกไว้มีจำนวน 15 คน จึงต้องนำภาพมาประกอบและจะต้องจับเพิ่มเติมอีก 3 คน และจะต้องแจ้งความเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ

 ทั้งนี้ หลังจากได้ตรวจสอบจุดเกิดเหตุหน้าหมู่บ้านรัตนโกสินทร์สองร้อยปีแล้วพบว่าอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบหัวกระสุนขนาด.38 จำนวน 2 หัวซึ่งเป็นหัวทองแดง และหัวกระสุนปืนขนาด 11 มม.จำนวน 2 หัว ต้องในที่เกิดเหตุ และที่หน้าห้องฉุกเฉินเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบระเบิดปิงปองที่ระเบิดเมื่อวานนี้นั้นพบว่าข้างในได้บรรจุสกูรไว้ตกในที่เกิดเหตุจำนวน 8 ตัว หากมีการกระเด็นไปถูกใครเข้าก็จะเกิดบาดแผลได้ ซึ่งทาง รพ.ยังไม่มีผู้ใดมาแจ้งความค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

 อย่างไรก็ตาม บรรยากาศที่ โรงเรียนเทคโนโลยีปทุมธานี เช้านี้ก็ยังเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สวนพริกไทยเข้าไปดูแลตรวจค้นอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งได้ตรวจนักเรียนวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานีไปพร้อมกันเนื่องจากทั้งสองโรงเรียนมักจะก่อเหตุไล่ตีกันบ่อยครั้งมากจึงได้ป้องกันทั้งที่หน้าโรงเรียนไล่ขึ้นรถเมล์กลับบ้านแต่มักจะมาก่อเหตุหน้าหมู่บ้านรัตนโกสินทร์สองร้อยปีเป็นประจำทุกวัน

รมว.ศธ.กำชับตำรวจ ใช้กฎหมายเคร่งครัด

 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และองค์กรหลักที่เกี่ยวข้อง เข้าไปดูแลสถาบันที่เกิดเหตุ พร้อมประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เนื่องจากในอดีต ตำรวจมักจะไม่ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เพราะเกรงว่าเยาวชนจะเสียอนาคต  แต่อาจจะต้องคิดนอกกรอบโดยส่งเยาวชนที่มีเรื่องทะเลาะวิวาท เข้าค่ายโรงเรียนเยาวชนวิวัฒน์ หรือนำตัวเข้าสู่กระบวนการ
ของกรมราชทัณฑ์

 

-