"ล้อมจับระทึก" กลาง ถ.กาญจนาภิเษก ยึดยาบ้า 2 ล้านเม็ด ซุกรถกระบะขนกะหล่ำปลี

ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (3ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล สนธิกำลังตำรวจกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด  "ล้อมจับระทึก" เข้าจับกุม นายบุญมี เอเย่นค้ายาบ้า อายุ 59  บริเวณถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมของกลางยาบ้า  จำนวน 2 ล้านเม็ด และเงินสด  11,000 บาท , พระเครื่อง 11 องค์ , บัตรกดเงินสด ATM จำนวน  4 ใบ สมุดบัญชีธนาคาร  2 เล่ม รถยนต์เก๋ง  2 คัน รถยนต์กระบะ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ  2 เครื่อง 

 
ทั้งนี้ ภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อกล่าวหา "มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต" พร้อมทั้งนำตัวไปสอบสวนเพิ่ม เพื่อทำการขยายผลที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) 

อย่างไรก็ตาม สำหรับการ "ล้อมจับระทึก" ดังกล่าว สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ ในพื้นที่ภาคกลางก่อนหน้านี้ และได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว จนทราบว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี กำลังลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้  โดยนำยาเสพติด ซุกซ่อนมากับสินค้าทางการเกษตร เพื่ออำพรางและตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ   

กระทั่งพบรถกระบะที่ลำเลียงยาเสพติด ขับมาตามถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี บริเวณด่านตรวจสกัดกั้นโควิด-19 ของอำเภอบางบัวทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปแสดงตัวเข้า "ล้อมจับระทึก" พบยาบ้าซุกซ่อนใต้ผักกะหล่ำปลี ที่บริเวณท้ายรถกระบะ

ส่วนรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าที่ทำหน้าที่นำทางนั้น ได้ขับหลบหนีการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยคนขับได้จอดรถทิ้งไว้ที่บริเวณ ซ.เปี่ยมสุข ถ.บางกรวย-ไทรน้อย  อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี  และอาศัยความมืดหลบหนีไปได้ 

จากการสอบถามนายบุญมี ให้การรับว่าได้รับจ้างขนยาเสพติดในลักษณะนี้มาแล้ว 4 ครั้ง ตั้งแต่ต้นปี 64  โดยจะจ่ายค่าจ้างให้กับผู้ร่วมขบวนการครั้งละ 300,000 บาท ซึ่งนายบุญมีจะได้ส่วนแบ่งต่อครั้ง ครั้งละ 12,000 บาท  โดยการโอนเข้าบัญชีธนาคาร โดยผู้ต้องหาทำหน้าที่ขับรถนำยาเสพติด จากพื้นที่ภาคกลาง สู่ชายแดนพื้นที่ภาคใต้ อ.สุไหงโก-ลก, อ.ตากใบ จ.นราธิวาส แต่ครั้งล่าสุดจะนำไปส่งที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไว้ได้ก่อน  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ต่อไป