
“ทนายเดชา”เอาจริง แจ้งความ“ทนายษิทรา”กล่าวหาตบทรัพย์ "ผู้กำกับโจ้"
"ทนายเดชา" เดินหน้าแจ้งความเอาผิด "ทนายษิทรา" ข้อหาหมิ่นประมาท-พ.ร.บ.คอมพ์” หลังโพสต์กล่าวหา ตบทรัพย์ 20 ล้าน ยัน ได้รับคลิปจริง แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบ ท้าหากมีหลักฐานให้แจ้งความ ไม่ใช่แค่เห่าไปทั่ว จ่อยื่นสภาทนายความ สอบ 3 ทนายความชื่อดัง
27 ส.ค.2564 ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม หลังถูกกล่าวหาว่านำคลิปเหตุการณ์ที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมพวกรวม 7 คน ก่อเหตุใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหายาเสพติดจนเสียชีวิตใน สภ.เมืองนครสวรรค์ ไปตบทรัพย์จำนวน 20 ล้านบาทจาก ผู้กำกับโจ้ เพื่อไม่ให้เผยแพร่คลิปและดำเนินการจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ทนายเดชา เปิดเผยว่า แจ้งความดำเนินคดีกับ ทนายษิทรา ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังจากมีการโพสต์ พร้อมกับให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ กล่าวหาว่าตนเองไปตบทรัพย์กับอดีต ผกก.โจ้และพวก ที่อ้างว่าตนเองได้รับคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปต่อรองกับกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งตนยอมรับว่า ได้รับคลิปมาจริง จากตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ก่อนหน้าทนายษิทราประมาณ 15 นาที แต่ที่ไม่นำเสนอ เนื่องจากคดีอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เกรงว่าจะเสียรูปคดี
ทนายเดชา ระบุว่า “หลังจากที่ ผู้กำกับโจ้ ให้ปากคำ ยืนยันว่าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ได้มีการเรียกทรัพย์แต่อย่างใด ขอท้าทนายษิทราว่า หากมีหลักฐานยืนยันว่าตบทรัพย์จริง ให้เข้ามาแจ้งความดำเนินคดีได้ทันที หากไม่เข้ามาแจ้งความ ก็เหมือนเป็นหมาตัวหนึ่ง ที่เอาแต่เห่าไปทั่ว ซึ่งก่อนหน้านี้ผมและทนายษิทราเป็นคู่กรณีกันมาก่อน”
โดยในวันนี้ได้นำหลักฐานการโพสต์ของทนายษิทรา พร้อมกับการสัมภาษณ์ผ่านรายการต่างๆ มายื่นต่อพนักงานสอบสวน ส่วนที่มีกระแสว่าตนเองร้อนตัวไปเองนั้น มองว่ามันชัดเจนอยู่แล้ว แม้ว่าทนายษิทราได้ปกปิดชื่อแล้วโพสต์ลง แต่ข้อความที่ส่งให้กับผู้สื่อข่าว และกลุ่มทนายนั้น ปรากฏชัดเจนว่าเป็นชื่อเพจทนายคลายทุกข์
ทนายเดชา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้จะเดินทางไปยื่นหนังสือที่สภาทนายความ เพื่อให้ตรวจสอบมารยาททนายความของทนายษิทรา , ทนายเกิดผล และทนายรณรงค์ ”
ส่วนเรื่องคำให้การของ ผู้กำกับโจ้ เมื่อคืนนั้น มองว่า น่าจะมีทนายความให้คำปรึกษามาเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นไปตามการคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหา ซึ่งผู้กำกับโจ้ได้ชี้แจงว่าทำตามหน้าที่ ไม่ได้รีดทรัพย์ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด ไม่ได้ตั้งใจทำให้ผู้ต้องหาเสียชีวิต พร้อมนำส่งที่โรงพยาบาลหลังเกิดเหตุ ซึ่งมองว่าจะส่งผลต่อรูปคดีอย่างมาก เพราะคำให้การ และคำชี้แจงต่อสื่อมวลชน สวนทางกับข้อมูลของผู้ร้องเรียนที่ส่งคลิปหลักฐานมาให้ตนครั้งแรก