อดีตนางงาม "ปูดำ สรารัตน์" สุดช้ำ รักใครก็โดนนินทาข้อหา “เมียลับ”

ออกมาเปลือยใจผ่านรายการ คุยแซ่บโชว์ ถึงชีวิตรักที่ผ่านมา โดย “ปูดำ สรารัตน์” เล่าเริ่มต้นจากการมีชีวิตคู่ที่ไม่สมหวัง เพราะเลือกคนผิด

 

    
"ตอนสมัยที่ประกวดนางงาม แล้วมีชีวิตที่พีคสุดๆ ก็มีคนให้เลือกมากมาย ทุกอาชีพ แล้วเราก็คิดว่าคนที่เราเลือกเป็นคนสุดท้าย เป็นคนที่เราตัดสินใจเลือกแล้ว แต่พอเราเลือกไปแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดหวัง เราเลือกผิด มันเสียโอกาสชีวิตแล้ว เพราะเรากลับไปเป็นรองนางสาวไทยไม่ได้แล้ว กลับไปเป็นรองมิสเอเชียไม่ได้"

ย้อนกลับไป เวลานั้นนับเป็นช่วงที่รุ่งโรจน์ที่สุด เพราะเธอเป็นนางงามหลายเวที พร้อมๆ กับประสบการณ์ที่ไม่เคยพบเจอ นั่นคือมีคนยื่นข้อเสนอ เพื่อแลกตัวเธอมาแล้ว  

 

 

“ผู้ใหญ่ก็จะมายื่นข้อเสนอ ให้ได้ทุกอย่างเลย มาเสนอให้เรามันมากกว่าหลักล้านอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นบ้าน เป็นรถ เป็นอะไร ตอนนั้นเราคิดเยอะ เพราะเรากำลังรุ่งเรืองสุดขีด แล้วผู้ใหญ่ที่มาเสนอให้เราก็เป็นผู้ใหญ่จริงๆ ซึ่งเราไม่เคยเชื่อเลยว่า พวกท่านจะไม่มีครอบครัว เราเลยไม่เลือกไง"

 

เริ่มเอ็กซ์คลูซีพเข้ามาทุกที เมื่อปูดำบอกว่า มีนักธุรกิจคนหนึ่ง ร่ำรวยมากมาจีบ ซึ่งก็ตรงสเปคด้วย คิดว่าจะเลือกคนนี้แล้ว แต่วันหนึ่งเขาเรียกไปนั่งคุย เรื่องเลยโป๊ะทันที

 

 

“เขาบอกว่าพี่มีอะไรจะบอกน้องสักอย่างนึง ถ้าน้องคบกับพี่ตอนนี้ พี่ไม่สามารถหาอะไรให้น้องได้อย่างที่น้องต้องการ แต่ถ้าเกิดว่าน้องเป็นแฟนของนายพี่ น้องอยากได้อะไร ยกเว้นดาวกับเดือน พี่จะให้น้องทุกอย่าง คือเขาไม่สามารถเบรกกับครอบครัวเขาได้ ที่จะมาซัพพอร์ตเรา แต่ถ้าสมมติเราเป็นแฟนกับนายเขา เขาสามารถให้ได้ทุกอย่าง"

 

 

ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ ปูดำ เริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น และต้องหาเป้าหมายใหม่ ที่จะมองแล้วใช่ เพื่อจะไม่พลาดซ้ำสองอีก แต่ด้วยความที่ไม่เลือกใครสักที ทำให้โดนข่มขู่ และสะกดรอยตาม 
"มีเอารถทหารมาจอดหน้าบ้าน  เฝ้าเลย บางทีเราออกจากบ้านปุ๊บ ก็ต้องคอยมองว่ามีรถอะไรตามมาหรือเปล่า เราไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ คนที่มองเราอยู่เป็นคนที่ชื่นชมเรา เพราะเราประกวดนางงามได้ หรือว่าเราเป็นดารา ก็ผวาไปช่วงนึงได้ แล้ววันนึงเรารีบเลือก ก็แจ็กพ็อตพอดี"

 

 

ด้วยความที่ยังไม่ตกลงใจกับใคร ทำให้ทั้งชีวิตถูกคนนินทามาตลอด ทั้งที่ได้ยินกับหูและลับหลัง ว่าเป็นเมียน้อย เมียลับ เมียเก็บ หรือแค่เห็นอุ้มเด็ก ก็ถูกเหมาว่าเป็นลูก จนปูดำปลง ไม่คิดจะโต้ หรือแถลงข่าว เพราะเสียเวลา อยากให้คำเหล่านั้นมันลืมเลือนไปดีกว่า
 
“แก้ต่างยังไงกับคนที่ไม่รักเรา พูดให้ตายเขาก็ไม่เชื่อ เพราะฉะนั้นไม่แก้ข่าว อีกไม่กี่วันคงลืมมั้ง เราคิดอย่างนี้นะ"

 

 

สำหรับความรักในวันนี้ “ปูดำ” บอกว่าไม่ได้ปิดกั้นอะไร แต่ก็ไม่ใช่เรื่องหลักในชีวิต  
“พี่คิดว่าความรักของพี่ สำหรับผู้หญิงวัย 56 มันไม่ใช่สิ่งที่พี่จะเอามาเป็นตัวชู เหมือนกับที่พี่ได้ตำแหน่งมากมาย แต่ตอนนี้พี่จะมองว่าความรักที่มีมันใช่ไหม มันเปิดเผยไหม ใช่ตัวจริงไหม หรือไม่ใช่ แล้วนั่งมองตากันปริบๆ ไปก่อน หรือถ้าเกิดใช่ ควรจะเปิด เมื่อวันนั้นมาถึงเปิดก็ได้ คือตอนนี้มันไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าใช่หรือไม่ใช่"

 

 

ส่วนเรื่องบั้นปลายชีวิต คิดแบบไหน เจ้าตัวมีคำตอบ 
“ตอนนี้ในชีวิตของพี่ปูเอง คุณพ่อเสียแล้ว คุณแม่เสียแล้ว พี่ชายบวช เราตัวคนเดียวจริงๆ  ทุกครั้งที่เราจะนอน เราจะอธิษฐานจิต หรือสวดมนต์เล็กๆ น้อยๆ ปุ๊บ เราก็จะพูดตลอดเวลาว่า ถ้าเกิดต้องไป ขอให้หนูไปเลยนะ เรารู้สึกว่าการได้อยู่บนเตียงนิ่มๆ แอร์เย็นๆ เรารู้สึกสบาย เรามีความรู้สึกว่าเราพร้อมเสมอที่เราจะไป เพราะเราไม่มีห่วงข้างหลัง"