"สวนกันหมัดต่อหมัด" สมบัติ- เสกสกล รัฐประกาศฉีด วัคซีน 100 ล้านโดสทันหรือไม่

"สวนกันหมัดต่อหมัด" ในรายการ"คมชัดลึก"หัวข้อ"สังเวียนความคิด ดีเบตการเมือง" ซึ่งเป็นการดีเบตกันระหว่าง ดร.เสกสกล อัตถาวงค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักรัฐมนตรี กับ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บก.ลายจุด หัวข้อ ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ประกาศฉีดวัคซีน 100 ล้านโดส ให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปี ทำได้หรือไม่

เริ่มที่ ดร.เสกสกล อัตถาวงค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ยืนยันว่า การฉีดวัคซีน 100 ล้านโดส ให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2564 ทำได้แน่นอน ขอให้เชื่อมั่น โดยเฉพาะในไตรมาส 4 วัคซีนกำลังทยอยมาอีกจำนวนมาก ดังนั้น ขณะนี้ มีการฉีดไปแล้ว 27 ล้านโดส เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนแล้วประมาณ 50% เหลือเวลาอีก 4 เดือน อย่างไรก็ทัน ขอให้มั่นใจว่า รัฐบาล และ ศบค. จะดำเนินการจัดหาวัคซีนให้เพียงพอ ตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนได้อย่างแน่นอน และโดยส่วนตัวเองแล้ว มั่นใจว่า จะฉีดได้มากกว่า 100 ล้านโดสด้วยซ้ำไป เพราะขณะนี้ รัฐบาลได้ทำทุกรูปแบบในการจัดหาวัคซีน ทั้งวัคซีนหลัก และวัคซีนทางเลือก โดยไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงกติกาที่ตั้งเป้าไว้อย่างแน่นอน 

โดยปี 2565 รัฐบาลตั้งเป้าฉีดวัคซีน 120 ล้านโดส ให้กับประชาชนได้อย่างทั่วถึง ทั้งคนไทย และชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย นอกจากนั้น "จะเริ่มปลดล็อกดาวน์ ให้ประชาชน เริ่มทำมาหากินได้ ขอให้เชื่อมันว่า รัฐบาลทำได้ตามคำมั่นสัญญา"

ขณะที่ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บก.ลายจุด ดีเบตกลับว่า ครั้งที่รัฐบาลตั้งเป้าฉีดวัคซีน 100 ล้านโดส คิดจากเปอร์เซ็น ประมาณ 50 ล้านคนที่จะต้องฉีด เลยมองว่าต้องใช้ 2 เข็ม แต่ปัจจุบันฉีดวัคซีน 2 เข็ม ได้ 6.23 ล้านคน คิดเป็นประมาณ 12% ซึ่งถือว่าฉีดตั้งนาน แต่ได้แค่นี้ นั่นยังไม่รวมว่า สถานการณ์ตอนนี้ต้องมีตัวบูสเตอร์ด้วย เพราะวัคซีนที่ฉีดไป 20 ล้านโดสในเข็มที่ 1 เป็นวัคซีนที่มีปัญหา แต่ไม่ได้หมายความว่า ไม่ใช่ช่วยอะไรไม่ได้เลย แต่ถ้าเปรียบเทียบกับวัคซีนที่นานาชาติใช้ ถือว่า เป็นวัคซีนที่มีคุณภาพด้อยกว่า ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ต้องมาคำนวณใหม่ว่า ตัวเลขของจำนวนประชาชนที่จะต้องได้รับวัคซีน ควรอยู่ที่เท่าไร

2.ต้องพิจารณายี่ห้อของวัคซีนว่า ป้องกันได้หรือไม่ ต้องแสวงหาวัคซีนที่มีคุณภาพ เช่น วัคซีนชนิด mRNA ซึ่งที่ผ่านมา ไม่ได้เกิดจากความพยายามของรัฐบาลไทย แต่เกิดจากการที่นานาชาติ เป็นห่วงคนไทย เพราะเล็งเห็นว่า ผู้นำประเทศไม่มีความกระตือรือร้นในการจัดหาวัคซีน ซึ่งวัคซีนที่มีคุณภาพที่มีเข้ามา ก็เกิดจากการบริจาค ไม่ได้เกิดจากความสามารถของรัฐบาล แต่เหนือสิ่งอื่นใด เมื่อถึงสิ้นปี 2564 ตามที่รัฐบาลตั้งเป้า แต่กลับสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวค มาอีก 12 ล้านโดส แล้วมาบอกว่า ประสบความสำเร็จ จัดหาวัคซีนได้ตามเป้า ส่วนตัวเห็นว่า "ผมไม่ถือว่าสิ่งนั้นเป็นความสำเร็จของรัฐบาล"