ลูกจ้างอัฟกันสถานทูตสหรัฐถอดใจหนี ตายมีศักดิ์ศรีดีกว่าฝ่าด่าน"ตาลีบัน"

สำนักข่าว NBC ในสหรัฐ รายงานโดยอ้างเคเบิลการทูต ที่สถานทูตสหรัฐในกรุงคาบูล ส่งถึงกระทรวงต่างประเทศ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (21 ส.ค.) ว่า ได้แจ้งให้ลูกจ้างชาวอัฟกันที่สถานทูตสหรัฐ เดินทางไปที่สนามบินนานาชาติฮามิด คาร์ไซ เพื่อเตรียมอพยพ โดยขอให้นำอาหารน้ำและเตรียมตัวรับกับสถานการณ์ยากลำบาก  แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะต้องเผชิญกับประสบการณ์สุดโหด  ถูกนักรบตาลีบันที่ด่านตรวจใกล้สนามบิน ด่าทอ ทุบตี ถ่มน้ำลายใส่ บางคนเกือบพลัดหลงกับลูก บ้างเจออากาศร้อนจัดจนเป็นลมแดดล้มกลางถนน และบาดเจ็บจากสถานการณ์เบียดเสียดยื้อแย่งต้องเข้าโรงพยาบาล  ลูกจ้างสถานทูตคนหนึ่ง กล่าวว่า “ขอตายด้วยกระสุนปืนของตาลีบันดีกว่ากลับไปเผชิญกับฝูงชนอีกครั้ง”  อีกคนบอกว่า “ขอตายอยู่ที่นี่ อย่างมีศักดิ์ศรีและภาคภูมิใจ” 

Sky News reports on the “mayhem” at the Kabul airport: “They’re getting crushed...Medics rushing from the next casualty to the next and the next.”

“Is this a stabilized withdrawal from Afghanistan? It looks like death to me.” pic.twitter.com/vQwsbUP7fn

— RNC Research (@RNCResearch) August 22, 2021

สนามบินนานาชาติคาบูล มีทหารสหรัฐอารักขาอยู่จากข้างใน แต่ด้านนอก รายล้อมไปด้วยด่านตรวจของตาลีบัน กระทรวงกลาโหมอังกฤษรายงานว่า ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 รายจากถูกเหยียบกันตาย ขณะพยายามฝ่าด่านตรวจเข้าไปในสนามบิน ขณะเจ้าหน้าที่นาโต บอกสำนักข่าวรอยเตอร์ส ว่า มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 20 คน ในสนามบินและพื้นที่โดยรอบ ตั้งแต่เกิดความโกลาหลหลังตาลีบันเข้ายึดกรุงคาบูล ซึ่งรวมถึงการเกาะช่องเก็บล้อเครื่องบินลำเลียงกองทัพสหรัฐแล้วตกลงมาตาย  ขณะที่สถานการณ์ที่สนามบินเมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) ยังเข้าขั้นมิคสัญญี นักรบตาลีบันยิงปืนขึ้นฟ้าและฟาดตีฝูงชนเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยแต่ยากจะเอาอยู่  

Sent to me today from someone inside the #KabulAirport.

Everyone I am working with in & out of govt have been so responsive. People are performing heroic acts getting people to the airport. Then this. pic.twitter.com/VZbgdqfjqa

— Nadine Maenza (@nadinemaenza) August 22, 2021

ลูกจ้างชาวอัฟกันอีกคน บอกกับ NBC กล่าวว่า บ้านของเขาถูกพ่นสี กลยุทธ์ที่ตาลีบันใช้ทำสัญลักษณ์ว่าคนในบ้านหลังนี้จะต้องถูกสอบปากคำในภายหลัง ครอบครัวของเขาต้องหลบหนีออกจากบ้าน แต่ก็ไม่สามารถเดินทางไปที่สนามบินได้

ไม่ชัดเจนว่า ที่ผ่านมา สหรัฐเตรียมการอพยพชาวอัฟกันที่ทำงานให้กับสถานทูต เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันที่ได้รับการอพยพเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหรือไม่  ลูกจ้างรายหนึ่ง ยังกล่าวหากระทรวงต่างประเทศสหรัฐว่า ให้ความสำคัญกับการอพยพอภิสิทธิ์ชนในรัฐบาลอัฟกานิสถาน ที่เตรียมเอกสารไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งยังมีหนทางอื่นที่จะหนีออกนอกประเทศ  

ทำเนียบขาวประเมินว่าได้อพยพคนราว 3 หมื่นออกจากอัฟกานิสถานนับตั้งแต่สิ้นเดือนกรกฎาคม โดยจำนวนนี้ 25,100 คนอพยพนับจากวันที่ 14 สิงหาคม ล่าสุด กระทรวงกลาโหมสหรัฐเผยว่าจะให้สายการบินพาณิชย์มาช่วยอพยพชาวอัฟกันด้วย