ระลอก 4 โควิด-19 "เดลตา" ปลุกวิกฤติหวนคืนอีกครั้ง ผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลสหรัฐฯ

บทความของ เดอะวอชิงตัน โพสต์ (The Washington Post) เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564 ระบุว่า โรงพยาบาลทั่วสหรัฐฯ "หวนคืนสู่วิกฤติ" อีกครั้ง เนื่องด้วยการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) ระลอก 4 อันเป็นผลมาจากเชื้อไวรัส โควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์ "เดลตา"

บทความอ้างถึงศูนย์การแพทย์โอเรกอนที่เต็มไปด้วยผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ไม่ฉีดวัคซีน ระบุว่า การที่ประชาชนกลับมารวมตัวกันทำให้ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นและเชื้อไวรัส โควิด-19 แพร่กระจายอีกครั้ง ขณะผู้บาดเจ็บจากการขับขี่และเล่นกีฬาล้วนเพิ่มความกดดันให้โรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งจำเป็นต้องเลื่อนการผ่าตัดออกไป

บทความชี้ว่า 46 จาก 50 รัฐท้องถิ่นของสหรัฐฯ พบผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคโควิด-19 เติบโตระดับเลขสองหลักในช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ส.ค. ขณะ 8 รัฐ รวมถึงแคลิฟอร์เนียและนิวยอร์ก มีผู้ป่วยในรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 400 ราย

สหรัฐฯ ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 911,529 ราย ในช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 ส.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขรายสัปดาห์สูงสุดนับตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค. ซึ่งมีผู้ป่วยรายใหม่มากกว่า 1 ล้านราย

ทั้งนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่า สหรัฐฯ ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งโดสให้ประชากรมากกว่าร้อยละ 59 ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้รับวัคซีนครบโดสร้อยละ 50.9

“บรรดาแพทย์ต่างกล่าวว่าเราหลีกเลี่ยงการระบาดใหญ่ทั่วประเทศ ซึ่งทำให้เกิดวิกฤติผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลได้ ขอเพียงประชากรเข้ารับวัคซีนมากขึ้น” บทความ ระบุ

(แฟ้มภาพซินหัว : บุคลากรการแพทย์ดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ วันที่ 22 ม.ค. 2021)