กรมอนามัย เชิญชวนคนไทยยกระดับการป้องกันโควิด-19 ขั้นสูงสุดในครอบครัว สวมแมสก์ภายในบ้าน หากพบว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงให้คัดกรองด้วย ATK ลดการติดเชื้อและแพร่เชื้อสู่ครอบครัว
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นวงกว้าง จากเดิมที่มาตรการสวมหน้ากากเพื่อป้องกันโควิด-19 จะเน้นปฏิบัติเมื่อออกจากบ้าน ปัจจุบันกลับพบผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสสมาชิกในครอบครัว หรือเกิดกับผู้ใกล้ชิดเพิ่มมากขึ้น
จากฐานข้อมูลการเฝ้าระวังตั้งแต่ 1 เมษายน - 14 สิงหาคม 2564 พบว่า กลุ่มเด็กปฐมวัยติดเชื้อในครอบครัว 60 % วัยเรียนติดเชื้อในครอบครัว 53 % และผู้สูงอายุติดเชื้อในครอบครัว 46 % จึงจำเป็นต้องยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 ขั้นสูงสุด หรือ Universal Prevention ด้วยการสวมหน้ากากในบ้านให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนในบ้าน
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากข้อมูลอนามัยโพลล่าสุด พบว่า ครอบครัวไม่มีการประเมินความเสี่ยงของทุกคนที่มาจากนอกบ้าน 73 % จึงส่งผลให้มีความกังวลต่อการแพร่เชื้อในบ้าน 69 % ซึ่งเมื่อถามถึงการสวมหน้ากากอนามัยในบ้านพบว่า ส่วนใหญ่เห็นด้วยและคิดว่าทำได้เพียง 55 %
นอกจากนี้ สมาชิกภายในบ้านควรประเมินความเสี่ยงผ่าน ไทยเซฟไทย ของกรมอนามัย และหากเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง ควรมีการตรวจด้วย Antigen Test Kit หรือ ATK เพื่อคัดกรองเบื้องต้น
อธิบดีกรมอนามัย กล่าวด้วยว่า ขอให้ทุกคนในครอบครัวสวมหน้ากาก เมื่ออยู่ในบ้านเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องสวมหน้ากากเมื่อทำกิจกรรมใกล้ชิดกับสมาชิกในครอบครัว เช่น ดูทีวีร่วมกัน พูดคุยกัน เมื่ออยู่ในห้องปรับอากาศร่วมกัน และต้องสวมหน้ากากเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยติดเตียงในบ้าน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง