
รู้จักถ้วยใหม่ "ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก"
ทำความรู้จักถ้วยฟุตบอลใหม่แกะกล่อง "ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก" มีทีมไหนมีโอกาสร่วมศึกฟาดแข้งในครั้งนี้บ้าง
ในฤดูกาลใหม่ปีนี้ 2021-2022 เราจะได้ตื่นเต้นกับโปรแกรมฟุตบอลยุโรป ที่น่าเร้าใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น 'ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก" , "ยูโรปา ลีก" และ ถ้วยน้องใหม่แกะกล่องอย่าง "ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก"
การจัดให้เกิด "ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก" โดยทาง "สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า)" เป็นผู้ริเริ่มขึ้น โดยมีการแสดงความคิดเห็นถึงการเข้าร่วมกับทัวร์นาเมนต์ของสโมสร ระดับเล็กไปจนถึง ทีมกลางตาราง ให้มีโอกาสวาดรวดลายในการแข่งขันฟุตบอลในรายการนี้ รวมถึงการเพิ่มรายได้ให้กับสโมสรเหล่านี้ สำหรับการจัดโปรแกรมการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
รูปแบบการแข่งขัน
สำหรับศึก "ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก" มีรูปแบบการฟาดแข้งเหมือนกับฟุตบอลสโมสรยุโรปรายการอื่นทั้ง "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก" และ "ยูโรปา ลีก" นั่นคือเริ่มจากแบ่งทีมตามค่าสัมประสิทธิของลีกในแต่ละชาติ โดยทีมจากลีกเล็กก็จะไปออกสตาร์ทกันตั้งแต่รอบคัดเลือก ซึ่งรอบคัดเลือกจะมีทั้งสิ้น 3 รอบด้วยกัน ต่อด้วยรอบเพลย์ออฟ เพื่อลุ้นตั๋วเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม รวมทั้งสิ้น 17 ทีม
ขณะเดียวกัน จะมีทีมที่ตกรอบคัดเลือก "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก" รอบแรก มาลงเตะเพลย์ออฟเพื่อแย่งโควตามาเล่นรายการนี้อีก 5 ทีม บวกกับทีมที่แพ้จากรอบเพลย์ออฟศึก "ยูโรป้า ลีก" ก็จะตกมาเล่นในรายการนี้อีก 10 ทีม นั่นทำให้ได้ครบทั้งหมด 32 ทีม ที่จะเข้าไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ลีก และจะแบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม
ทั้งนี้ ทีมแชมป์ในรอบแบ่งกลุ่ม จะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมทันที ส่วนทีมอันดับ 2 ของแต่ละกลุ่ม จะไปเตะเพลย์ออฟกับทีมอันดับ 3 จากรอบแบ่งกลุ่มของศึกยูโรป้า ลีก อีกที
โดย จะมีรอบต่าง ๆ ที่ยังเหมือนเดิม คือ รอบแบ่งกลุ่ม (8 กลุ่ม, กลุ่มละ 4 ทีม), รอบน็อกเอาต์เบื้องต้น, รอบ 16 ทีมสุดท้าย, รอบก่อนรองชนะเลิศ, รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ และเมื่อได้ครบ 16 ทีมสุดท้าย ก็จะเตะแบบน็อกเอาต์ไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยทีมแชมป์รายการนี้จะได้สิทธิไปเตะยูโรป้า ลีก ฤดูกาลถัดไปโดยอัตโนมัติ ยกเว้นแต่ว่าทีมนั้นจะได้สิทธิคว้าตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จากผลงานในลีกประเทศตัวเองไปแล้ว
การคัดเลือกทีมของยูฟ่า ทำให้ลีกที่มีค่าสัมประสิทธิ์น้อยจะได้สิทธิเข้าร่วมมากกว่า โดยสโมสรจากลีกเล็ก ๆ จะได้โควต้าชาติละ 3 ทีม ส่วนลีกที่มาตรฐานดีขึ้นมา อาทิ โปรตุเกส, เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์, สก็อตแลนด์ รัสเซีย, ตุรกี ฯ ได้ชาติละ 2 ทีม
ส่วนลีกท็อปไฟว์ของยุโรป ได้แก่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ , ลาลีกา สเปน, บุนเดสลีกา เยอรมนี, เซเรียอา อิตาลี และลีกเอิง ฝรั่งเศส ได้โควตาแค่ทีมเดียวเท่านั้น โดยส่วนใหญ่มักจะให้สิทธินี้แก่ทีมแชมป์ฟุตบอลถ้วย แต่ถ้าทีมแชมป์ฟุตบอลถ้วยได้โควตาแชมเปี้ยนส์ลีก หรือยูโรปาลีกไปแล้ว สิทธิก็จะตกไปอยู่กับทีมอันดับสูงสุดในลีกที่ยังไม่ได้โควตาบอลยุโรป
อย่างไรก็ตาม ทีมที่คุ้นหูคุ้นตา ที่มีโอกาสจะได้เห็นในเวที "ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก" โดยการแข่งขันกันแบบเหย้าและเยือนเพื่อหาทีมผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มในรายนี้ คือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ,โรม่า จากเซเรียอา อิตาลี, ยูเนียน เบอร์ลิน จากบุนเดส ลีกา เยอรมันนี, แรนส์ จาก ลีกเอิง ฝรั่งเศส, บาเซิล จากซูเปอร์ลีก สวิตเซอร์แลนด์ , เฟเยนูร์ด จากเอดิวีซี่ ลีก ฮอลแลนด์, อันเดอร์เลทช์ จากโปรลีก เบลเยียม, เอฟซี โคเปนเฮเกน จากซูเปอร์ลีก เดนมาร์ก, อเบอร์ดีน สกอตติช พรีเมียร์ลีก, แทร็บซอนสปอร์ จากซูเปอร์ลีก ตุรกี, โรเซนบอร์ก จาก เอลีเตเซเรียน นอร์เวย์ เป็นต้น
ที่มา Twitter@europacnfleague
CREDIT PHOTO : Twitter@europacnfleague