ข่าว

ต้องจบก่อนเกษียณ มูลนิธิรณสิทธิ์ ร้อง ปปช. กรณี "อัยการสูงสุด" ไม่ฟ้อง "วิคตอเรียซีเครท"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ต้องจบก่อนจะเกษียณ มูลนิธิรณสิทธิ์ ยื่น ปปช.อีกรอบ ตอบโจทย์ หรือช่องโหว่ กรณี "อัยการสูงสุด" ไม่ฟ้อง คดี "วิคตอเรียซีเครท" และ "บอส อยู่วิทยา"

จากกรณีที่นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ เด็กและสตรี ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกับ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 19 ก.ค.64 เพื่อให้ตรวจสอบการใช้ดุลพินิจของคณะพนักงานอัยการ "อัยการสูงสุด"ที่มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นางนิภา และนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ อดีตผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ ในสถานบริการอาบอบนวด "วิคตอเรียซีเครท" โดยบุคคลทั้ง 2 เป็นผู้ต้องหาร่วมกับ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ ซึ่งอยู่ในระหว่างการหลบหนี ในคดีอาบอบนวด "วิคตอเรียซีเครท" ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น 

 

ต้องจบก่อนเกษียณ มูลนิธิรณสิทธิ์ ร้อง ปปช. กรณี "อัยการสูงสุด"  ไม่ฟ้อง "วิคตอเรียซีเครท"

 

 

ล่าสุด นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ เด็กและสตรี ได้ออกมาพูดถึงในคดีค้ามนุษย์ ในสถานบริการอาบอบนวด "วิคตอเรียซีเครท" โดยมีการระบุว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้มีการยื่นหนังสือ เพื่อทวงถามเหตุผลการใช้ดุลพินิจคำสั่งไม่ฟ้อง นางนิภาฯ และนายธนพลฯ จากอัยการ และ "อัยการสูงสุด" ว่า มีการใช้หลักฐานใด ที่มีคำสั่งไม่ฟ้อง และก็ไม่เคยได้รับคำตอบจากเรื่องนี้ 

 

ต้องจบก่อนเกษียณ มูลนิธิรณสิทธิ์ ร้อง ปปช. กรณี "อัยการสูงสุด"  ไม่ฟ้อง "วิคตอเรียซีเครท"

   

โดยเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปยื่นจดหมายถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เป็นครั้งที่2 เพื่อขอให้ตรวจสอบ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ ในฐานะ "อัยการสูงสุด" ว่า ได้มีการปล่อยปละละเลย หรือมีส่วนร่วมในการสั่งไม่ฟ้อง นางนิภาฯ และนายธนพลฯ ผู้เป็นผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์อาบอบนวด "วิคตอเรียซีเครท" ด้วยหรือไม่ และเป็นการกระทำไม่สุจริตต่อหน้าที่ หรือมีการเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่   และขอให้กรรมการ ป.ป.ช.ตรวจสอบ เอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้องสั่งไม่ฟ้องคดี ดังกล่าว 

 

ต้องจบก่อนเกษียณ มูลนิธิรณสิทธิ์ ร้อง ปปช. กรณี "อัยการสูงสุด"  ไม่ฟ้อง "วิคตอเรียซีเครท"

 

"ผมทราบว่า นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ จะเกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคมนี้ ดังนั้น จึงอยากให้ออกมาชี้แจงว่า เหตุใดในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด พนักงานอัยการ ที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ถึงได้มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาในคดี "วิคตอเรียซีเครท" ซึ่งเป็นคดีค้ามนุษย์ รวมทั้งคดี วรยุทธ อยู่วิทยา หรือ "บอส" ผู้ต้องหาขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต  และผู้ต้องหาทั้ง 2 คดี ก็ได้หลบหนีด้วยเช่นกัน ดังนัั้น จึงได้มายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมในครั้งนี้" ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ เด็กและสตรี  กล่าว 

 

นายรณสิทธิ์ กล่าวอีกว่า อยากให้ ป.ป.ช. เข้าไปขยายผลด้วยว่า กรณีหนังสือขอความเป็นธรรมของ นายกำพลฯ ซึ่งค้างอยู่ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายวงศ์สกุล หรือพนักงานอัยการผู้ใต้บังคับบัญชาของนายวงศ์สกุล ได้มีคำสั่งอย่างใด เพราะไม่อยากเห็นกรณีที่เกิดซ้ำรอยเหมือน คดี "บอส  อยู่วิทยา"

 

"ต้องยอมรับว่า คดีค้ามนุษย์ "วิคตอเรียซีเครท" องค์กกรต่อต้านการค้ามนุษย์ ทั้ง 13 องค์กร มีความห่วงใยในคดีนี้ เพราะกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทย รวมทั้งโยงใยถึงการจัดอันดับการค้ามนุษย์อีกด้วย ซึ่งในที่ปีนี้ประเทศไทย ตกลงมาอยู่ในอันดับ "เทียร์ 2" คือเฝ้าจับตา หรือเฝ้าระวัง"    
 

 

นายรณสิทธิ์ ระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 19 ก.ค.64 ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือรวม 4 ฉบับ พร้อมกับนำไปยื่นให้กับ นายวงศ์สกุล , นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) , นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน ว่าที่อัยการสูงสุด และพล.ต.อ.วัชรพล โดยเนื้อหาในหนังสือทั้ง 4 ฉบับ ขอให้มีการตรวจสอบกรณีการใช้ดุลพินิจสั่งไม่ฟ้องคคี "วิคตอเรียซีเครท" รวมทั้งกรณี นายกำพลฯ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา ได้ร้องขอความเป็นธรรมก่อนหน้านี้ด้วย โดยคดีนี้ศาลอุทธรณ์ พิพากษาว่า "วิคตอเรียซีเครท" เป็นสถานบริการค้ามนุษย์ พร้อมทั้งตัดสินจำเลย ว่ามีความผิดข้อหาค้ามนุษย์ และให้จำคุกสถานหนัก

 

ต้องจบก่อนเกษียณ มูลนิธิรณสิทธิ์ ร้อง ปปช. กรณี "อัยการสูงสุด"  ไม่ฟ้อง "วิคตอเรียซีเครท"

 

นายรณสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับหนังสือฉบับที่ยื่นให้กับ พล.ต.อ.วัชรพล เกี่ยวกับกรณีการสั่งไม่ฟ้องคดีนางนิภาฯ และนายธนพลฯ เพราะลักษณะเหมือนกับคดี "บอส วรยุทธ" เริ่มต้นสั่งฟ้อง แต่ผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรม สุดท้ายอัยการกลับคำสั่งเป็น "ไม่ฟ้อง" นอกจากนี้ยังทราบด้วยว่า คดี "วิคตอเรียซีเครท" มีพนักงานอัยการชั้นผู้ใหญ่รายหนึ่ง เข้าเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งได้ร้องเรียน ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และความเชื่อมโยงกับอัยการรายนี้ โดยเป็นอัยการคนเดียวกับที่ถูกกรรมการ ป.ป.ช.ตั้งกรรมการไต่สวนในคดี "บอส อยู่วิทยา" 

 

ฉะนั้น จึงอยากขอวิงวอนให้ พล.ต.อ.วัชระพล และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้สอบสวนข้อเท็จจริงทั้ง 2 คดี เพื่อให้เกิดความโปร่งใสกับกระบวนการยุติธรรม และให้ดำเนินการตามกฎหมายกับพนักงานอัยการ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำการโดยมิชอบต่อไป


รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับความคืบหน้าคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ "บอส อยู่วิทยา่" นายนิวัติไชย เกษมมงคล โฆษกกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ออกระบุถึงความคืบหน้าว่า การรื้อคดีกรณีอัยการไม่สั่งฟ้องคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ที่ขับรถหรูชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เมื่อปี 2555 ว่าเข้าข่ายช่วยเหลือ นายวรยุทธ หรือไม่ ทั้งกรณีที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง และ กรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่นำตัวมาส่งฟ้องต่ออัยการ เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาหลบหนีคดี

 

ทั้งนี้ อนุกลั่นกรองของ ป.ป.ช. ได้พิจารณาสำนวนแล้ว เห็นว่ามีมูล ซึ่งอยู่ในระหว่างเสนอให้ กรรมการ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไต่สวน ผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งพบว่ามีนับสิบราย ทั้ง ตำรวจ และอัยการ ในข้อหาร่วมกันช่วยเหลือ ไม่ดำเนินการกับผู้ต้องหา ในคดีขับรถโดยประมาท ก่อนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหา และชี้มูลความผิดตามกระบวนการต่อไป

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ