ผู้การฯเมืองนนท์ สุดงง.! ตำรวจเมืองนนท์ ปล่อยอดีต "สารวัตร" นั่งรีดทรัพย์เหยื่อคาโรงพัก | คมชัดลึก

จากกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เข้าร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปปป. กรณีอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศพันตำรวจโท ตำแหน่ง "สาารวัตร" รายหนึ่ง ทำการเรียกรับเงินเพื่อล้มคดี เป็นเงินกว่า 1 แสนบาท 

 

 

 

 

ซึ่งจากการเข้าทำการล่อซื่้อ และเข้าจับกุม ทราบชื่อผู้กระทำผิดคือ พ.ต.ท.ประชา บรรณาธิกร อดีตสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี โดยผู้ต้องหารายนี้ เป็นข้าราชการตำรวจที่เกษียณอายุราชการไปแล้วกว่า 5 ปี ซึ่งได้มีการเรียกรับเงินจากนายสมศักดิ์ วาสุโพธิ์ ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงที่ดิน โดยนายจีระพงษ์ กลมเกลี้ยง ทนายความได้นำเงินสดจำนวน 1 แสนบาทไปมอบให้ พ.ต.ท.ประชา ถึงโต๊ะทำงานในห้องพนักงานสอบสวนชั้น 2 ของ สภ.เมืองนนทบุรี ก่อนจะถูกซ้อนแผนจู่โจมเข้าจับกุมตัว ได้พร้อมของกลางนั้น 

 

  

ล่าสุดวันที่ 11 ส.ค.64 พ.ต.อ.ยรรยงค์ สันติปรีชาวัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เปิดเผยว่า คดีนี้ พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าวทั้งหมด โดยอยู่ในระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และให้ทางโรงพัก สภ.เมืองนนทบุรี ทำหนังสือชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วยว่า เหตุใดจึงปล่อยให้อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าว เข้าไปทำงานสอบสวนแทนพนักงานสอบสวนตัวจริง 

 

 

ในเบื้องต้นได้รับรายงานว่า พ.ต.ท.ประชา อดีตสารวัตรสอบสวน ซึ่งเกษียญอายุราชการไปแล้ว ซึ่งมีความชำนาญในงานสอบสวน ได้อาสาเข้ามาช่วยพนักงานสอบสวนที่เพิ่งบรรจุรับราชการใหม่ เกี่ยวกับวิธีการทำสำนวนสอบสวนในแต่ละคดี จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

 

พ.ต.ท.พัทธมิตร จ้างประเสริฐ รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ประชา เคยเป็นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี มาก่อน และเกษียณอายุราชการตำรวจไปตั้งแต่ปี 58 แล้ว แต่ช่วงหลังทางพนักงานสอบสวนมีงานมาก งานล้น ประกอบกับ พ.ต.ท.ประชา ก็มีประสบการณ์ในด้านการสอบสวน และยังเป็นผู้ช่วยพนักงานสอบสวนได้

 

  

กระทั่งพ.ต.ท.ประชา ได้ขอเข้าไปสอบเป็นเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยของ สภ.เมืองนนทบุรี ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่กำหนดให้ทุกโรงพัก ต้องมีเจ้าหน้าที่ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทประจำโรงพัก เพื่อลดอัตราการเกิดคดีความ

 

ทำให้ พ.ต.ท.ประชา ซึ่งมีความชำนาญในงานสอบสวน ได้รับเป็นที่ปรึกษาในการทำสำนวนคดี แต่ก็ไม่ได้มีหน้าที่ใดที่จะไปเรียกรับ หรือพูดคุย หรือจะไปสั่งการในสำนวนใดๆได้ ซึ่งต้องดำเนินการตามอำนาจของพนักงานสอบสวนเท่านั้น

 

และทางพนักงานสอบสวน ต้องเป็นคนสั่งการว่า ให้ช่วยพิมพ์ หรือช่วยงาน ช่วยสรุปเหมือนเป็นเสมียนคนหนึ่งเท่านั้น  การไปดำเนินการนอกเหนือหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายจึงไม่ถูกต้อง ซึ่งจะต้องมีการสอบปากคำ ผู้ที่มีส่วนในคดีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป