"รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์" คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ซัดแก้"โควิด" ล้มเหลว ต่างประเทศระดับ"นโยบาย" ลาออกตั้งแต่แรก จะมาขอยกเว้นการรับผิดได้อย่างไร หากมี คนเจ็บป่วยมากมาย ตายดั่งใบไม้ร่วง
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กว่า
แล้วการแสดงความรับผิดชอบต่อความล้มเหลวจากการทำงานนโยบายล่ะครับ
ประชาชนจะเห็นจากใครบ้าง
ถ้านโยบายและมาตรการผิดพลาดจนคนติดจำนวนมาก ตายจำนวนมาก เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหาศาล...ต่างประเทศนั้นกลุ่มคนระดับนโยบายล้วนประกาศลาออกกันให้เห็นตั้งแต่แรกแล้วครับ
"หน้าด่าน"กับ"หอคอยงาช้าง"นั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว อย่ามาอ้างเพื่อเหมารวมกัน
ไม่ว่าจะประเทศใดในโลกนี้ คนในสังคมย่อมต้องไม่มีทางยอมรับกับการร้องขอที่ไม่ถูกต้อง
จะมาขอยกเว้นการรับผิดได้อย่างไร
ในเมื่อนโยบายและมาตรการต่าง ๆ นั้นย่อมส่งผลต่อชีวิตของทุกคนในสังคม ทั้งเรื่องสวัสดิภาพ ความปลอดภัยในชีวิต ความเสี่ยงและความสูญเสีย
หากในสังคมใด ๆ นั้น เกิดเหตุการณ์ที่การตัดสินใจเชิงนโยบายทำให้เกิดปรากฏการณ์ดังต่อไปนี้
คนที่เจ็บป่วยมากมาย
คนที่ตายไปดั่งใบไม้ร่วง
คนที่ขาดเสาหลักของครอบครัว ครอบครัวแล้วครอบครัวเล่า
คนที่สูญเสียพ่อแม่ ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า
คนที่ทนแรงกดดันไม่ไหว จนกระทั่งต้องโดดสะพานฆ่าตัวตาย ผูกคอตาย ยิงตัวตาย จำนวนมากเคสแล้วเคสเล่า
ธุรกิจห้างร้านที่ต้องปิดกิจการทั้งชั่วคราวและถาวร
ความเครียด ซึมเศร้า หวาดกลัว ของทุกคนในสังคม ทั้งต่อโรคระบาดที่รุนแรง การต้องเฝ้าคอย เฝ้ารอ เฝ้าแย่งกันจองวัคซีน เตียง หยูกยา คิวตรวจ และอื่นๆ
เหล่านี้เป็นตัวอย่างผลกระทบที่ไม่พึงปรารถนา และไม่ควรที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจเชิงนโยบายทั้งสิ้น หากมีนโยบายที่ถูกต้องเหมาะสมตามหลักวิชาการและสถานการณ์
ดังนั้นหากทุกนโยบายที่เกิดขึ้นมา เป็นไปตามหลักการ วิชาความรู้ที่ถูกต้อง ตรวจสอบได้ พิสูจน์ชัดเจนตามมาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับ กระบวนการทำงานทั้งด้านนโยบายและวิชาการทุกขั้นตอนเป็นไปตามตัวบทกฎหมาย กฎระเบียบ และตามหลักวิชาการ และมีบันทึกรายละเอียดตรวจสอบได้ว่าเป็นไปอย่างสุจริตและยุติธรรม
ไม่ว่าประเทศใดที่มีกลไกนโยบายและวิชาการข้างต้น ย่อมไม่ต้องมีความกังวลใด ๆ เพราะแม้จะมีการร้องขอให้ตรวจสอบ หรือเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็สามารถชี้แจงแถลงไขได้อย่างชัดเจน ด้วยความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานนโยบายหรือวิชาการ
เพราะเราทำทุกอย่างด้วยความรู้ที่ถูกต้อง ไร้ซึ่งกิเลสไม่มีอำนาจใด ๆ มาครอบงำให้กระทำผิดยืนอยู่บนความมุ่งมั่นที่ทำความดี ละเว้นความชั่ว และเป็นนโยบายที่เป็นไปตามหลักคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรม
กฎหมายเพื่อปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำการดูแลรักษาผู้ป่วยในภาวะวิกฤติที่ขาดแคลนทรัพยากรต่าง ๆ นั้น ล้วนเป็นที่เข้าใจได้ถึงความจำเป็น และเชื่อว่าทุกคนทุกประเทศในโลกล้วนยอมรับได้ และแสดงความเห็นอกเห็นใจและสนับสนุนเต็มที่
แต่ไม่ใช่เรื่องระดับนโยบายและวิชาการที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย เพราะบทบาทหน้าที่ระดับนโยบายนั้นต้องตามมาด้วยความพร้อมที่จะแสดงความรับผิดชอบ โดยการแสดงออกซึ่งความรับผิดชอบนั้นทำได้หลากหลายรูปแบบ ดังที่เราเห็นจากบทเรียนของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่ผ่านมาขึ้นอยู่กับว่ายอมรับความจริงและจะทำหรือไม่
มิใช่มาร้องขอให้ไม่ต้องรับผิดชอบต่อผลจากการตัดสินใจเชิงนโยบายและมาตรการที่ตนหรือกลุ่มของตนทำไปในอดีต
เหล่านี้คือหลักการ ที่เชื่อว่าทุกคนในโลก ไม่ว่าประเทศใด ล้วนเข้าใจและมีมาตรฐานในการพิจารณาเพื่อให้สังคมดำเนินไปได้ด้วยความยุติธรรม แม้กระนั้น อย่างไรเสีย ในวิถีพุทธ ก็ไม่พ้นเรื่อง"กฎแห่งกรรม"อยู่ดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง