ข่าว

"หมอธีระ" ซัดแก้"โควิด" ล้มเหลว  ต่างประเทศระดับ"นโยบาย" ลาออกตั้งแต่แรก

"หมอธีระ" ซัดแก้"โควิด" ล้มเหลว ต่างประเทศระดับ"นโยบาย" ลาออกตั้งแต่แรก

11 ส.ค. 2564

"รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์" คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ซัดแก้"โควิด" ล้มเหลว ต่างประเทศระดับ"นโยบาย" ลาออกตั้งแต่แรก จะมาขอยกเว้นการรับผิดได้อย่างไร หากมี คนเจ็บป่วยมากมาย ตายดั่งใบไม้ร่วง

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  โพสต์เฟซบุ๊กว่า

 

แล้วการแสดงความรับผิดชอบต่อความล้มเหลวจากการทำงานนโยบายล่ะครับ

 

ประชาชนจะเห็นจากใครบ้าง

 

ถ้านโยบายและมาตรการผิดพลาดจนคนติดจำนวนมาก ตายจำนวนมาก เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหาศาล...ต่างประเทศนั้นกลุ่มคนระดับนโยบายล้วนประกาศลาออกกันให้เห็นตั้งแต่แรกแล้วครับ

 

"หน้าด่าน"กับ"หอคอยงาช้าง"นั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว อย่ามาอ้างเพื่อเหมารวมกัน


 

 

ไม่ว่าจะประเทศใดในโลกนี้ คนในสังคมย่อมต้องไม่มีทางยอมรับกับการร้องขอที่ไม่ถูกต้อง

 

จะมาขอยกเว้นการรับผิดได้อย่างไร

 

ในเมื่อนโยบายและมาตรการต่าง ๆ นั้นย่อมส่งผลต่อชีวิตของทุกคนในสังคม ทั้งเรื่องสวัสดิภาพ ความปลอดภัยในชีวิต ความเสี่ยงและความสูญเสีย 

 

หากในสังคมใด ๆ นั้น เกิดเหตุการณ์ที่การตัดสินใจเชิงนโยบายทำให้เกิดปรากฏการณ์ดังต่อไปนี้

 

คนที่เจ็บป่วยมากมาย

 

คนที่ตายไปดั่งใบไม้ร่วง

 

คนที่ขาดเสาหลักของครอบครัว ครอบครัวแล้วครอบครัวเล่า

 

คนที่สูญเสียพ่อแม่ ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า 

 

คนที่ทนแรงกดดันไม่ไหว จนกระทั่งต้องโดดสะพานฆ่าตัวตาย ผูกคอตาย ยิงตัวตาย จำนวนมากเคสแล้วเคสเล่า

 

ธุรกิจห้างร้านที่ต้องปิดกิจการทั้งชั่วคราวและถาวร

 

ความเครียด ซึมเศร้า หวาดกลัว ของทุกคนในสังคม ทั้งต่อโรคระบาดที่รุนแรง การต้องเฝ้าคอย เฝ้ารอ เฝ้าแย่งกันจองวัคซีน เตียง หยูกยา คิวตรวจ และอื่นๆ

 

เหล่านี้เป็นตัวอย่างผลกระทบที่ไม่พึงปรารถนา และไม่ควรที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจเชิงนโยบายทั้งสิ้น หากมีนโยบายที่ถูกต้องเหมาะสมตามหลักวิชาการและสถานการณ์

 

ดังนั้นหากทุกนโยบายที่เกิดขึ้นมา เป็นไปตามหลักการ วิชาความรู้ที่ถูกต้อง ตรวจสอบได้ พิสูจน์ชัดเจนตามมาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับ กระบวนการทำงานทั้งด้านนโยบายและวิชาการทุกขั้นตอนเป็นไปตามตัวบทกฎหมาย กฎระเบียบ และตามหลักวิชาการ และมีบันทึกรายละเอียดตรวจสอบได้ว่าเป็นไปอย่างสุจริตและยุติธรรม

 

ไม่ว่าประเทศใดที่มีกลไกนโยบายและวิชาการข้างต้น ย่อมไม่ต้องมีความกังวลใด  ๆ เพราะแม้จะมีการร้องขอให้ตรวจสอบ หรือเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็สามารถชี้แจงแถลงไขได้อย่างชัดเจน ด้วยความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานนโยบายหรือวิชาการ

 

เพราะเราทำทุกอย่างด้วยความรู้ที่ถูกต้อง ไร้ซึ่งกิเลสไม่มีอำนาจใด ๆ มาครอบงำให้กระทำผิดยืนอยู่บนความมุ่งมั่นที่ทำความดี ละเว้นความชั่ว และเป็นนโยบายที่เป็นไปตามหลักคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรม

 

กฎหมายเพื่อปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำการดูแลรักษาผู้ป่วยในภาวะวิกฤติที่ขาดแคลนทรัพยากรต่าง ๆ นั้น ล้วนเป็นที่เข้าใจได้ถึงความจำเป็น และเชื่อว่าทุกคนทุกประเทศในโลกล้วนยอมรับได้ และแสดงความเห็นอกเห็นใจและสนับสนุนเต็มที่

 

แต่ไม่ใช่เรื่องระดับนโยบายและวิชาการที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย เพราะบทบาทหน้าที่ระดับนโยบายนั้นต้องตามมาด้วยความพร้อมที่จะแสดงความรับผิดชอบ โดยการแสดงออกซึ่งความรับผิดชอบนั้นทำได้หลากหลายรูปแบบ ดังที่เราเห็นจากบทเรียนของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่ผ่านมาขึ้นอยู่กับว่ายอมรับความจริงและจะทำหรือไม่ 

 

มิใช่มาร้องขอให้ไม่ต้องรับผิดชอบต่อผลจากการตัดสินใจเชิงนโยบายและมาตรการที่ตนหรือกลุ่มของตนทำไปในอดีต
เหล่านี้คือหลักการ ที่เชื่อว่าทุกคนในโลก ไม่ว่าประเทศใด ล้วนเข้าใจและมีมาตรฐานในการพิจารณาเพื่อให้สังคมดำเนินไปได้ด้วยความยุติธรรม  แม้กระนั้น อย่างไรเสีย ในวิถีพุทธ ก็ไม่พ้นเรื่อง"กฎแห่งกรรม"อยู่ดี