"รมว.ยธ. "สั่ง "ผบ.เรือนจำ"ทั่วประเทศต้องมีสต๊อกยา"ฟ้าทะลายโจร" 50 เม็ดต่อคน ภายในเดือน ส.ค. ย้ำต้องรู้วิธีการใช้ให้ยารักษาผู้ต้องขังติด"โควิด"อย่างรวดเร็ว กำชับข้าราชการต้องมีสเปรย์ติดตัวไว้ฆ่าเชื้อ หวังกลางเดือนนี้ "ผู้ติดเชื้อ"ใน"เรือนจำ"ลดลง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเร็นซ์ ร่วมกับ ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วยผู้บริหารและผู้บัญชาการเรือนจำทั่วประเทศเพื่อติดตามสถานการณ์โควิด-19 ในเรือนจำ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนต้องขอบคุณทุกคนที่เอาจริงเอาจังจนผู้ติดเชื้อลดลงมาแต่ตนอยากให้ลดลงอีกเรื่อย ๆ และต้องปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเข้มงวด ในส่วนของการรักษาผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด
ขณะนี้เราได้สั่งแคปซูลฟ้าทะลายโจร 100,000 กระปุก แต่ของยังมาไม่ครบจำนวน เพราะการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนที่มีความต้องการทั่วประเทศ
ดังนั้นเราต้องมีการปรับแผนปรับตัวให้ผู้ต้องขังเข้าถึงยารักษา ผบ.เรือนจำทุกเรือนจำขอให้จัดหา แบบบดราคาเม็ดละประมาณ 1 บาท ทำอย่างไรให้มีเพียงพอ ตนจึงอยากให้ ผบ.เรือนจำช่วยตัวเองโดยการปลูกและผลิต และขอให้ ผบ.เรือนจำทุกแห่ง คำนวณจำนวนของฟ้าทะลายโจรแคปซูล จะต้องมีสำรองประมาณคนละ 50 แคปซูลต่อผู้ต้องขัง 1 คน
"หากมีผู้ต้องขัง 1,000 คน ต้องมี 50,000 แคปซูล ไว้เป็นสต๊อกสำรอง ภายในสิ้นเดือน ส.ค. นี้ต้องมี เราจะต้องทำอย่างไรให้มี ซึ่งบางเรือนจำมีการสต็อกของไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเรื่องนี้เป็นความปลอดภัยและจะทำให้ผู้ติดเชื้อภายในเรือนจำไม่เพิ่มขึ้น
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การมีสต๊อกสำรอง 50 แคปซูลต่อคน จะเป็นแบบบดก็ได้ แต่ต้องมี นี่คือวิธีการทำงาน ทุกคนต้องใช้วิจารณญาณให้ถูกและการให้ยาต้องรวดเร็ว ซึ่งหากใช้การตรวจ PCR จะตกหัวละ 2,000 บาท แต่หากใช้ยาฟ้าทะลายโจรจะแค่ไม่กี่บาท
ดังนั้น ผบ.เรือนจำทุกเรือนจำต้องจัดหาเตรียมพร้อมไว้และต้องศึกษาด้วยว่าจะต้องใช้อย่างไร แต่ละกระปุกมีสารแอนโดรกาฟลอไรด์เท่าไร และในการประชุมครั้งต่อไปจะสุ่มถาม เพราะหากเราไม่รู้เราจะใช้ไม่ถูกและจะรักษาไม่ได้
นอกจากนี้ตนต้องการให้ข้าราชการของกระทรวงยุติธรรมที่เดินเข้าออกเรือนจำ ต้องมีสเปรย์แอลกอฮอล์ติดตัวไว้พ่นฆ่าเชื้อตลอดเวลาเพื่อลดการติดเชื้อ สุดท้ายตนขอขอบคุณทุกท่าน ขณะนี้เราเข้าสู่การปฏิบัติที่แท้จริง เชื่อว่ากลางเดือนนี้ยอดผู้ติดเชื้อในเรือนจำจะลดลง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง