ข่าว

ฉาวอีก ขรก.สาว "กำแพงเพชร" ยักยอกเงิน เสี่ยงภัย "โควิด" 12 ล้าน

ฉาวอีก ขรก.สาว "กำแพงเพชร" ยักยอกเงิน เสี่ยงภัย "โควิด" 12 ล้าน

09 ส.ค. 2564

ฉาวอีก ขรก.สาว "กำแพงเพชร" ยักยอกเงิน เสี่ยงภัย "โควิด" 12 ล้าน

จากกรณี น.ส.น้ำ (นามสมมุติ) ตำแหน่งนักบัญชี ปฎิบัติงานด้านสาธารณสุข ในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร ได้ทุจริตเงินค่าตอบแทนเสี่ยงภัย "โควิด-19" เป็นจำนวนเงินกว่า 12 ล้านบาท โดยเบื้องต้นหน่วยงานต้นสังกัด ได้มีแจ้งความเอาไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมี พ.ต.ท.ไพศาล วรรณชัย สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร รับเรื่องเอาไว้เป็นหลักฐาน เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา พร้อมมีคำสั่งให้ให้ ข้าราชการสาวรายนี้ ออกจากทางราชการไว้ก่อน  พร้อมกับตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเอาผิด  

 

ฉาวอีก ขรก.สาว "กำแพงเพชร" ยักยอกเงิน เสี่ยงภัย "โควิด" 12 ล้าน

  

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.อ.วัชรเกียรติ สิริวิมลฤทธิ์ ผกก.สภ.เมืองกำแพงเพชร เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งทางพนักงานสอบสวน ได้ติดตามรวบรวมพยานหลักฐานการทุจริตในครั้งนี้อย่างละเอียด พร้อมกับตั้งข้อหาความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่รักษาทรัพย์ใด เบียดบังเอาทรัพย์นั้นไปเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตหรือทุจริต ยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต”

 

ฉาวอีก ขรก.สาว "กำแพงเพชร" ยักยอกเงิน เสี่ยงภัย "โควิด" 12 ล้าน

  

นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการอายัดบัญชีธนาคารของ น.ส.น้ำ (นามสมมุติ) ตามที่ผู้เสียหายได้แจ้งความเอาไว้อีกด้วย ซึ่งประกอบด้วยบัญชีธนาคารกรุงไทย 2 บัญชี และธนาคารไทยพาณิชย์ 1 บัญชี แต่พบว่าธนาคารไทยพาณิชย์ หมายเลขบัญชีที่แจ้งมา ไม่ได้เป็นชื่อของ น.ส.น้ำ แต่อย่างใด คงต้องดำเนินการสอบสวนตรวจสอบกันต่อไป

 

จากการตรวจสอบในบัญชีธนาคารของเจ้าหน้าที่ พบว่า เส้นทางการโอนเงินเข้าบัญชีของ น.ส.น้ำ (นามสมมุติ) มีมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 เป็นต้นมา จนถึงเดือนกรกฎาคม 2564 ซึ่งแต่ละเดือนมีการเคลื่อนไหวของยอดเงินเข้าบัญชี ตั้งแต่หลักพันจนถึง 1 ล้านกว่าบาท อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการถอนออกเป็นระยะ ๆ เช่นกัน และจากการตรวจสอบยอดสุดท้ายบัญชีหลัก คือ ธนาคารกรุงไทย ของ น.ส.น้ำ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 พบว่า มีเงินเหลือเพียง 79.31 บาทเท่านั้น

 

สำหรับทางด้านคดีความนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถที่จะเรียกตัวผู้กระทำผิด มาแจ้งข้อกล่าวหาได้ เพราะเป็นการทุจริตของหน่วยงานภาครัฐ ที่เจ้าพนักงานจะต้องรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน ส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดเสียก่อน จึงจะนำตัวมาดำเนินคดี คงต้องใช้ระยะเวลา และขั้นตอนพอสมควร

 

โดยภายสัปดาห์นี้ หากหลักฐานครบถ้วน เจ้าพนักงานจะได้รวบรวมส่งให้กับทางป.ป.ช.เป็นพิจารณาตามข้อกฏหมาย ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับ ป.ป.ง.ในเรื่องของการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ได้ถูกยักย้ายถ่ายเทไปในบัญชีหรือบุคคลอื่นก็ได้ สำหรับ น.ส.น้ำ ขณะนี้ยังเก็บตัวเงียบอยู่ภายในบ้านพัก หากมีการหลบหนีจะได้ออกหมายจับทันที